ภายหลังการประชุมธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น หรือ BOJ ทางธนาคารกลางตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับเดิม และส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตได้อย่างมั่นคงและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถเติบโตได้ถึงระดับเป้าหมายที่ 2% ได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นายโกชิ คาตาโอกะ สมาชิกบอร์ค BOJ คนใหม่ ไม่ได้เสนอให้เพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งผิดคาดกับทางตลาด หลังจากที่เกิดข้อพิพาทขึ้นภายบอร์ดบริหารของ BOJเมื่อเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นายคาตาโอกะ ได้กล่าวว่า ทางธนาคารกลางควรให้สัญญานที่ชัดเจนหากต้องการจะเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ผ่านทางการเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อคงอัตราผลตอบแทนระยะยาวให้อยู่ในระดับต่ำ
รายงานจากทาง BOJ ระบุว่า นายคาตาโอกะได้แสดงความคิดเห็นว่า หากการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อเกิดการชะลอตัวลงจากปัญหาของเศรษฐกิจภายในประเทศ ทางธนาคารกลางควรตัดสินใจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ทั้งนี้ ทาง BOJ ได้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ -0.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0% ดังเดิม ด้วยคะแนนโหวต 8-1 โดยนายคาตาโอกะโหวตคัดค้านแต่ไม่ได้มีการโต้แย้งแต่อย่างใด
นอกจากนี้ แม้จะไม่ใช่รายงานอย่างเป็นทางการจาก BOJ แต่นายคาตาโอกะได้ระบุว่า BOJ ควรเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อรักษาให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 15 ปีคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 0.2% ขณะที่ในปัจจุบัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 15 ปีอยู่ที่ระดับ 0.307%
นายริวทาโร่ โคะโนะ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์จาก BNP Paribas Securities เชื่อว่าความคิดเห็นของนายคาตาโอกะจะไม่สามารถโน้มน้าวความคิดเห็นโดยรวมของสมาชิกบอร์ดบริหารทั้งหมดได้ เนืองจากบอร์ดยังคงไม่เห็นความจำเป็นของการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายการเงินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เขายังคงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังไม่สามารถเติบโตเหนือระดับ 1% ไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้น BOJ จึงจะยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเร็วๆนี้แต่อย่างใด
ที่มา: Reuters