• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2560

    31 ตุลาคม 2560 | SET News


·         ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 85.45 จุด หรือคิดเป็น -0.36% ที่ระดับ 23,348.74 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.32% ที่ระดับ 2,572.83 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.03ที่ระดับ 6,698.96 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯเผชิญกับภาวะ Pull back หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มบริษัท Merck ที่ร่วงลง และรายงานที่ว่า ส.ส. สหรัฐฯกำลังหารือกันถึงเรื่องการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเกี่ยวกับการหั่นภาษีนิติบุคคลจำนวนมาก

·         นักลงทุนในตลาดจับตาไปยังท่าทีการปรับลดภาษี หลังรายงานจาก Bloomberg ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำลังหารือแนวทางการปรับลดภาษีนิติบุคคลอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงเวลาหลายปี ขณะที่ผู้อำนวยการจาก LibertyView Capital Management กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจไปยังการปรับลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อไปที่จะหนุนให้หุ้นสหรัฐฯขึ้นต่อได้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนในตลาดกลับตอบรับกับข่าวที่ส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายของนายทรัมป์ หลังมีรายงานว่า นายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการคณะทำงานเสียงการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกศาลสั่งฟ้องกรณีฟอกเงินและมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯอ่อนตัวลงในช่วงปลายตลาดหลังมีข่าวว่า นายทรัมป์ ใกล้ประกาศการเลือกนายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟดในการดำรงประธานเฟดคนต่อไป

·         หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่า นายทรัมป์ นั้นถูกคาดการณ์ว่าจะเลือกนายโพเวลล์ในเร็วๆนี้ หรือประกาศผลในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อมารับตำแหน่งประธานเฟดแทนนางเยลเลน หลังจากที่ในช่วงต้นตลาดรายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายทรัมป์มีแนวโน้มสูงที่จะเลือกนายโพเวลล์

·         ด้านตลาดหุ้นเอเชียนักลงทุนรอคอยการประกาศผลข้อมูลภาคการผลิตของจีนและการตัดสินใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ยของบีโอเจ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.67ก่อนทราบผลการตัดสินใจของบีโอเจ ประกอบกับการร่วงลงของหุ้นกลุ่มหลักต่างๆ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มการเงินที่ร่วงลงกว่า 1อันได้แก่ Mitsubishi UFJ ที่เปิด -2.17%และ Nomura Holding ที่ร่วงลง 2.79%

·         นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ในกรอบระหว่าง 33.15-33.55 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าตลาดจะจับตาปฏิกิริยาจากธนาคารกลางทั่วโลกต่อผลการเลือกประธานเฟดคนใหม่ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้

ขณะเดียวกัน ทิศทางตลาดในช่วงนี้ จะยังขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งจะมีผลต่อการปรับสมดุลนโยบายการเงินของเฟด รวมถึง กนง. ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจไทย ต้องจับตามองดัชนีราคาผู้บริโภค แม้เงินเฟ้อน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ นอกจากเฟดแล้ว ตลาดยังจับตาดูการประชุมของบีโอเจและบีโออีที่จะจัดประชุมภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com