MTS Help Center

• เมื่อคืนนี้ค่าเงินยูโรร่วงลงระดับวันมากที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในรอบ 16 เดือน หลังจากที่อีซีบีจะเริ่มต้นลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากปริมาณความต้องการที่น้อยลงมากที่สุดนับตั้งแต่ส.ค. ปีที่แล้วในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 7 ปี

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นได้ 0.99% ที่ระดับ 94.683 จุด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.35% แตะระดับ 1.1653 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่อีซีบี เผยว่า จะทำการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยมีผลนับตั้งแต่ม.ค.ปีหน้า แต่ก็จะขยายระยะเวลาการเข้าซื้อสินทรัพย์ออกไปอีก 9 เดือน (ก.ย. ปี 2018) เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

• หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Gain Capital กล่าวว่า ภาพรวมอีซีบียังให้น้ำหนักความสนใจและค่อนข้างระมัดระวังต่อการค่อยๆปรับลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่ามากไป และในที่ประชุมจะเห็นได้ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการยังผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีล่าสุดเคลื่อนไหวแถวระดับ 2.4609% จากระดับ 2.444% ในคืนวันพุธ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมา 2.9706% จากระดับ 2.955% ในช่วงคืนวันพุธ

• รายงานจาก Politico ระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันได้หลุดโผจากผู้ถูกคัดเลือกสำหรับประธานเฟดวาระถัดไปแล้ว แต่ทางทำเนียบขาวได้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส โดยระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ ณ ขณะนี้

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในคืนวันพุธ พบว่า ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเกินคาดในรอบ 10 ปีในเดือนก.ย. สู่ระดับ 667,000 ยูนิต จากระดับ 561,000 ยูนิต ขณธที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 2.2% จากระดับ 2.0% และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงคลังที่ไม่รวามภาคการขนส่งก็ออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 0.7% จากเดิมก็มีการปรับทบวนขึ้นมาบริเวณ 0.5% จึงยังเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นเกินคาดเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงบ่งชี้ถึงทิศทางตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน โดยข้อมูลล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 233,000 ราย ซึ่งยังเป็นการอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 138

• ผลการประชุมอีซีบีเมื่อคืนนี้ พบว่า อีซีบีตัดสินใจหั่นวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน (7 หมื่นล้านเหรียญ) เพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อภายในประเทศสมาชิกของยูโรโซน โดยให้เหลือวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนเพียง 3 หมื่นล้านยูโร จนกว่าจะถึงช่วงสิ้นเดือนก.ย. ปี 2018

• นักเศรษฐศาสตร์จาก ING มองว่า การประกาศออกจาก QE ของอีซีบีนั้นเป็นไปอย่างนุ่มนวล และมีเจตนาจะสื่อถึงการเริ่มต้นออกจากนโยบายด้วยท่าทีระมัดระวัง โดยปราศจากการพิจารณาการอ่อนค่าของค่าเงินยูโรหรือการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์จาก Citi Resarch ที่ระบุว่า เจตนาของอีซีบีในการชะลอ QE นั้นเป็นไปเพื่อไม่ให้ตลาดเกิดภาวะ “Market Tantrum” ซึ่งอีซีบีอาจจะยังคงรักษาความสงบในตลาดได้ด้วยวงเงินการเข้าซื้อทั้งหมด 2.5 แสนล้านยูโร และการประกาศปรับขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือนมีขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้นักลงทุนทราบว่า QE มีแนวโน้มดำเนินการยุติได้ยากหรือการใช้นโยบายต่อเนื่อง

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับการสิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดที่เข้ามาบดบังข่าวการเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของสต็อกน้ำมันดิบสหรํฐฯ รวมทั้งปริมาณการผลิตและยอดส่งออกน้ำมันสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 86 เซนต์ หรือคิดเป็น +1.5% ที่ระดับ 59.3 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 3 ก.ค. ปี 2015

ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 46 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.9% ที่ระดับ 52.64 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่ เม.ย. ที่ผ่านมา

• สมาชิกกลุ่มโอเปก รวมไปถึงรัสเซียและผู้ผลิตน้ำมันประเศอื่นๆ ได้ร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตลงประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา และข้อตกลงจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปี หน้า แต่พวกเขาทั้งหมดก็กำลังพิจารณาเรื่องการขยายปริมาณและระยะเวลาอีกครั้ง

โอเปกจะมีการจัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ณ กรุงเวียนนา

• EIA เผย สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 856,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากทีเผชิญกับพายุเฮอริเคนเน็ท ขณะที่ยอดส่งออกทำสติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เฉลี่ยในช่วง 4 สัปดาห์อยู่ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน