• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2560

    18 ตุลาคม 2560 | Economic News


 

·         ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีแนวโน้มจะคัดเลือกประธานเฟดคนต่อไปที่มีแนวโน้มจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับอานิสงส์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี จากกระแสคาดการณ์ที่เริ่มมากขึ้นว่า นายทรัมป์ ดูจะพึงพอใจต่อ นายจอห์น เทย์เลอร์ มาเป็นประธานเฟดคนต่อไป

ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ระดับ 93.729 จุด ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยมาทรงตัวที่ระดับ 93.488 จุด

ค่าเงินยูโรร่วงลงทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1.1734 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนที่เช้านี้จะดีดกลับได้เล็กน้อยมาทรงตัวที่ระดับ 1.1770 ดอลลารณ์/ยูโร ขณะที่ภาพรวมร่วงลงเกือบ 3เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อช่วงเดือนที่แล้ว

·         ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากรอยเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นประธานเฟดคนต่อไปได้ แต่บางส่วนก็มองว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับวาระถัดไป


·         เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุดชี้ว่า โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 93%



·         ยอดนำเข้าประจำเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 0.7% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี โดยได้รับอานิสงส์จากราคาพลังงานและอุปทานอุตสาหกรรม ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมรีบาวน์กลับในเดือนก.ย. ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่ร่วงลงไปติดต่อกัน 2 เดือน โดยได้รับอานิสงส์จากภาคการก่อสร้างและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

·         ส.ส. พรรครีพับลิกันรีบเร่งหาเสียงสนับสนุนสำหรับรายละเอียดการแก้ไขงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการขับเคลื่อนแผนยกเครื่องภาษีของนายทรัมป์ แม้ว่า นายแรน พอล  หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันยังไม่เห็นด้วยต่อแผนงบประมาณปี 2018 โดยการจำกัดงบประมาณ 4.3 หมื่นล้านเหรียญ โดยเรียกร้องต่อแผนปฏิรูปค่าใช้จ่าย อันรวมไปถึงโครงการประกันสุขภาพและโครงการต่างๆ

·         ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเมื่อคืนที่ผ่าน ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะนำนโยบายประกันสุขภาพสำรองที่จะใช้แทนนโยบายโอบามาร์แคร์ไปก่อนเป็นระยะเวลาอย่างน้อย ปี โดยนโยบายทดแทนดังกล่าวจะมอบทุนเงินจำนวน 106 ล้านเหรียญฯ เพื่อใช้งบสำหรับการเบิกประกันสุขภาพของชาวสหรัฐฯ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้สนับสนุนมาตรการแก้ไขชั่วคราวดังกล่าวด้วยเช่นกัน


·         รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะทำการเปิดประชุมใหญ่ครั้งสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี โดยถูกคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโมการใช้อำนาจในวาระดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ในช่วง 5 ปีต่อไป


ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญไปยังประเด็นความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีนายจิ้นผิงเป็นผู้นำในช่วงการดำรงวาระแรก แต่ทุกคนก็ยังรอสัญญาณหรือทิศทางการดำเนินนโยบาย รวมไปถึงทิศทางการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศในวาระการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 ของเขา

·         ราคาน้ำมันปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากที่แกว่งตัวทั้งขึ้นและลง จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการผลิตน้ำมันและยอดส่งออกในสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นจึงช่วยชดเชยความวิตกกังวลจากเหตุปะทะในอิรักและกองกำลังชาวเคิร์ดที่อาจส่งผลต่อผลผลิตน้ำมันในประเทศ

·         ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 6 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.1% ที่ระดับ 57.88 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1 เซนต์ ที่ระดับ 51.88 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com