• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 29 กันยายน 2560

    29 กันยายน 2560 | Economic News


  

·         ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 93.12 จุด เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ปิดตลาดโดยแข็งค่าขึ้น 1% ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงหนุนจากเหล่านักลงทุนที่คาดหวังถึงนโยบายปฏิรูปภาษีของคณะบริหารของประธานาธิบสหรัฐฯ


  ·         นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนโยบายในตอนนี้ คือการปรับลดยอดงบดุลอของเฟด ซึ่งโดยส่วนตัวเขามีมุมมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่อาจเรียกได้ว่ามาตรการนี้คือมาตรการที่จะถูกใช้เป็นการชั่วคราว ขณะที่การส่งสัญญาณการคุมเข้มของเฟดนั้นเป็นไปได้ดีกว่าที่เคยส่งสัญญาณในปี 2013 ดังนั้น ที่ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และก่อให้เกิดภาวะ 'taper tantrum'.

·         โฆษกประจำสหภาพยุโรปเผย ยอดเงินอัดฉีดค้างชำระจากบรรดาประเทศสมาชิกในยุโรปได้มียอดรวมสูงเป็นประวัติการณ์ จึงอาจส่งผลด้านลบกับอังกฤษที่กำลังมีการเจรจาเกี่ยวกับ Exit Bill

บรรดาประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป ทั้ง 28 ประเทศ รวมถึงอังกฤษ ได้ตกลงที่จะมีการจ่ายเงินอัดฉีดให้กับสหภาพเป็นเงินกว่า ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านเหรียญ) ในช่วงปี 2014 ถึง 2020 แต่ในปัจจุบันพบว่ามียอดเงินที่ไม่ได้รับการชำระจากประเทศสมาชิกรวมแล้วกว่า 2.39 แสนล้านยูโร

·         นางลาเอล เบรนาร์ด สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด กล่าวว่า ความแตกต่างของตลาดแรงงานในระยะยาวจะจำกัดศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ดังนั้นเฟดควรทำการวิจัยมากขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น

·         ส.ส.สหรัฐฯเผย รัฐบาลจีนมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกนโยบายคว่ำบาตรเกาหลีเหนือมากขึ้น พร้อมเรียกร้องให้สภาคองเกรสระงับการเพิ่มนโยบายคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไว้ก่อน เพื่อให้นโยบายของทางรัฐบาลจีนเริ่มแสดงผลลัพธ์

·         ทำเนียบขาวกำลังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปภาษี โดยหลายๆฝ่ายกล่าวหาว่านโยบายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะเป็นการช่วยประชาชนที่มีฐานะร่ำรวย ขณะที่ประชาชนที่มีฐานะปานกลางลงมาจะได้รับผลกระทบในทางลบ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อ้างว่านโยบายปฏิรูปภาษีคือ ปาฏิหาริย์สำหรับชนชั้นกลาง” ขณะที่นายแกรี่ โคน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เผยว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ประชาชนที่มีฐานะปานกลางทุกคนจะได้รับการลดหย่อนภาษี

·         นายพลโจเซฟ ดันฟอร์ด ผู้นำสูงสุดแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า ไม่มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวทางการทหารที่ผิดปกติใดๆในเกาหลีเหนือ แม้จะอยู่ในภาวะที่มีความตึงเครียดสูงก็ตาม

โดยคาดว่าเกาหลีเหนือน่าจะซ่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆไว้ใต้ดิน ซึ่งจะส่งผลให้การสอดแนมผ่านทางดาวเทียมเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น

·         สำนักข่าว Reuters รายงานว่า นายมาร์ค คานีย์ ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุ  BBC โดยเขากล่าวว่า ธนาคารกลางมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เร็วๆนี้” หากเศรษฐกิจอังกฤษยังส่งสัญญาณที่จะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

·         นายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการ EU คาดการณ์ว่าการเจรจา Brexit กับทางอังกฤษจะยังคงไม่มีความคืบหน้าสำคัญใดๆ ที่จะทำให้การเจรจาก้าวสู่ขั้นต่อไปในเดือน ต.ค.ได้

·         ราคาน้ำมันผันผวนท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่คาดหวังว่าการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะเริ่มเห็นผล ขณะที่ปริมาณอุปสงค์น้ำมันกำลังเร่มขยายตัว

โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 8 เซ็นต์ ที่ระดับ 51.48 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ภาพรวมรายเดือนปรับสูงขึ้นอีก 9% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1 เซ็นต์ ที่ระดับ 57.42 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ภาพรวมรายเดือนปรับสูงขึ้นเกือบ 10%ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com