• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 19 กันยายน 2560

    19 กันยายน 2560 | Economic News


 

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นในรอบกว่า 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนโดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่สูงขึ้น จากเหล่าเทรดเดอร์ที่รอคอยผลกาปรระชุมเฟดว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงสิ้นปีนี้หรือไม่

โดยค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.51% ที่ระดับ 111.4 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.14% ที่ระดับ 92.002 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัว 1.1965 ดอลลาร์/ยูโร

• การประชุมเฟดที่จะเริ่มต้นในวันนี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะเปิดเผยรายละเอียดการจะเริ่มปรับลดวงเงินในพอร์ตจำนวน 4.2 ล้านล้านเหรียญผ่านการขายคืนพันธบัตรและ MBS ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบศตวรรษหลังจากที่เกิดวิกฤตทางการเงิน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอคอยสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจาก นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดอีกด้วย

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นักลงทุนยังคงรอแนวโน้มการเคลื่อนไหวของเฟดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. ล่าสุดยังคงมีความเป็นไปได้น้อยกว่า 50%

• นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศประจำ BMO Capital กล่าวว่า เหตุผลเบื้องต้นที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นมาจากการตีความที่ชัดเจนขึ้น ว่าตลาดมีมุมมองว่เฟดไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงกำหนดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีนี้ หรือจากทิศทางของ Dot Plot และนั่นหมายความว่าเฟดยังมีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 2.229% หลังจากที่ 8 ก.ย. ร่วงลงไป 2.016% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 10 พ.ย. ปี 2016

• เฟดคาดหวังที่จะทยอยลดยอดงบดุลเพื่อให้เกิดผลกระทบที่น้อยที่สุดต่อตลาดการเงิน แต่การค่อยๆปรับลดยอดงบดุลก็อาจเพิ่มความตึงเครียดอย่างมากให้แก่ตลาดพันธบัตรได้ เนื่องจากการปรับลดยอดงบดุลของเฟดอาจเป็นการสร้างความยากลำบากมากขึ้นให้กับภาคธนาคารและนักลงทุนในการกู้ยืมในตลาดพันธบัตรในส่วนของตลาดทุนระยะสั้นที่มีสัญญาขายคืนตามข้อตกลง (Repurchase Agreement Market) และนอกจากจะทำให้เกิดความยากลำบากและทำให้สินทรัพย์มีราคาแพงขึ้น ก็ยังมีประเด็นเรื่องป้องกันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย

อย่างไรก็ดี การปรับลดยอดงบดุลของเฟดอาจส่งผลให้เกิดการชำระหนี้สินที่ไม่ตรงเวลาเพิ่มขึ้น และปัญหาดังกล่าวจะสร้างความกังวลให้กับหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับธนาคารกลางสหรัฐฯสาขานิวยอร์ก

• สำหรับความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางอื่นๆ จะเห็นได้ว่า บีโอเจถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงนโยบายการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อไปในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายของบีโอเจ จะเห็นได้ว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กำลังพิจารณาการจัดการเลือกตั้งก่อนถึงวาระ หรือ Snap Election เร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นในเดือนหน้า ท่ามกลางคะแนนนิยมต่อตัวเขาที่เพิ่มมากขึ้น และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพรรคฝ่ายค้าน

• ธนาคารกลางแคนาดาเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ ขณะที่บีโออีส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ประกอบกับอีซีบีที่มีกระแสคาดการณ์ว่าจะเริ่มถอดถอนแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนหน้า

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 14 เซนต์ ที่ระดับ 55.48 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 2 เซนต์ ที่ระดับ 49.91 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน จากเหล่าเทรดเดอร์ที่มองว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นในสัปาห์นี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com