ประเด็นที่น่าสนใจ:
- นักวิเคราะห์ระบุว่า ค่าเงินยูโรอาจแตะ 1.2 ดอลลาร์/ยูโรได้ก่อนช่วงสิ้นปีนี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวของยูโรโซน และความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯอาจเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนค่าเงินยูโร
- อีซีบีตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ยังบ่งชี้ถึงแผนที่จะเริ่มหารือเรื่องการคุมเข้มทางการเงินในเดือนก.ย.
รายงานจาก CNBC ระบุว่า นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ค่าเงินยูโรอาจแตะระดับ 1.2 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนช่วงสิ้นปีนี้ โดยได้รับอานิสงส์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวของยูโรโซน ประกอบกับนักลงทุนที่ลดความเชื่อมั่นในสหรัฐฯลง
ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี บริเวณ 1.655 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ประธานอีซีบี กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนแสดงให้เนถึงการฟื้นตัวโดยปราศจากข้อกังขาใดๆ รวมทั้งบ่งชี้ถึงแผนที่จะเริ่มต้นหารือความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินหรือ QE
เมื่อไหร่ที่อีซีบีจะชะลอนะโยบาย?
นายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานอีซีบีไม่ได้ระบุถึงกรอบเวลาที่ชัดเจนที่จะดำเนินการคุมเข้มทางการเงิน แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า ในกาปรระชุมเดือนกันยายนอีซีบีอาจประกาศแผนการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรหรือ QE ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2018 ก่อนที่จะค่อยๆเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน
คณะกรรมาธิการด้านการลงทุนประจำ Quilvest Investment Management กล่าวว่า นักลงทุนเชื่อว่า มาตรการ QE ของอีซีบีจะลดเหลือ 4 หมื่นล้านยูโร/เดือน ในช่วงไตรมาสที่ 4/2017 และอัตราดอกเบี้ยระดับติดลบจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย ขณะที่มุมมองส่วนตัวจากช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คิดว่ามาตรการ QE จะสิ้นสุดในปี 2018
ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวของอีซีบีจะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินยูโร หลังจากที่ผันผวนขาลงและทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 1.0404 ดอลลาร์/ยูโรในเดือนม.ค. แต่ค่าเงินยูโรก็กลับทิศเป็นขาขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ จากภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯที่คุกรุ่น
ค่าเงินยูโรจะแข็งค่าได้เท่าไหร่?
นักวิเคราะห์มองว่า อาจเห็นค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นไปบริเวณ 1.20 ดอลลาร์/ยูโร ในช่วงสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะแข็งค่าแตะระดับ 1.25 ดอลลาร์/ยูโรในปี 2018 เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนยังเป็นขาขึ้น และความเสี่ยงด้านภาวะเงินฝืดนั้นปรับตัวลดลงอย่างมาก ในทางกลับกันข้อมูลยอดค้าปลีกและเงินเฟ้อสหรัฐฯอ่อนแอลง จึงบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนกลับมองไกลกว่านั้น โดยคาดว่า ค่าเงินยุโรจะปรับแข็งค่าขึ้นได้ 1.14 ดอลลาร์/ยูโรในช่วงสิ้นปีนี้
ที่มา: CNBC