• 5 คำถามที่นักลงทุนอยากถาม ECB เกี่ยวกับ QE

    20 กรกฎาคม 2560 | Economic News


 

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย QE ของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ตามกำหนดการเดิมกำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปี 2017 นี้ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจยุโรปที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จึงทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ต่างๆเกี่ยวกับจังหวะการยกเลิก QE ของ ECB จากบรรดานักลงทุน

โดยในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้ คำถามดังต่อไปนี้คือสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังที่จะได้คำตอบมากที่สุด

1. จะประกาศยกเลิก QE เมื่อไหร่?

บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายนนี้ แต่โอกาสที่จะประกาศในการประชุมวันนี้ก็ยังคงมีอยู่

ภาพในบรรทัด 1

2. จะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่?

ตามกำหนดการเดิม นโยบาย QE จะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะเริ่มปรับลดในช่วงต้นปี 2018 แต่ปัญหาสำหรับ ECB คือ อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงถูกคาดการณ์ว่าจะไม่ยังสามารถขยายตัวถึงระดับเป้าหมายที่ 2% เป็นอย่างน้อยไปจนถึงปี 2019

ภาพในบรรทัด 2

3. จะใช้เวลานานเท่าไหร่?

หาก ECB ใช้รูปแบบการดำเนินงานตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะค่อยๆปรับลดในทุกๆเดือน ก็น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน โดยที่ ECB ไม่น่าจะกำหนดวันแน่นอนเพื่อให้การดำเนินงานมีความยืดหยุ่น เผื่อกรณีเศรษฐกิจเกิดการชะลอตั

ภาพในบรรทัด 3

4.การยกเลิก QE จะมาพร้อมการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่?

นักลงทุนส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ปี 2018 ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งมองว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายที่เร่งรัดเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไม่ขยายตัวตามคาด ประกอบกับ ECB ไม่ต้องการเกิดผลกระทบกับตลาดมากเกินจำเป็น ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะตามมาหลังจากนั้นสักพักใหญ่

สำหรับระดับของอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้น นักวิเคราะห์คาดว่า ในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรก ECB จะปรับขึ้น 0.10% เป็นอย่างน้อย

ภาพในบรรทัด 4

5. ECB จะควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดอย่างไร?

นับตั้งแต่นายมาริโอ ดรากี้ ประธาน ECB ได้ออกมาให้สัญญาณว่าจะเริ่มมีการยกเลิกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดได้ตอบรับกับข่าวส่งผลให้ค่าเงินยูโรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลก็ได้ปรับพุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดติดต่อกันแทบจะทันที

ดังนั้น ECB น่าจะกล่าวกับตลาดว่าการดำเนินนโยบายยกเลิก QE อาจมีการเปลี่ยแปลงในภายหลังได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วเกินไปจากค่าเงินยูโรและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่จะสูงขึ้นหากประกาศยกเลิกจริง

ภาพในบรรทัด 5

ที่มา: Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com