• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (Special) ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2560

    8 กรกฎาคม 2560 | Economic News

  


• รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดในเดือนมิ.ย. จึงยังตอกย้ำสัญญาณการขยายตัวที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ต่อไปได้ แม้ว่าอัตราค่าแรงจะขยายตัวได้ช้าลงที่ระดับ 0.2% ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้น 4.4% จากระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี บริเวณ 4.3% อันเนื่องมาจากผู้คนส่วนใหญ่กำลังอยู่ในช่วงหางาน ดังนั้น จึงยังมีสัญญาณที่ดีต่อตลาดแรงงาน


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นในคืนวันศุกร์ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะการจ้างงานปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. จึงยังคงหนุนแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกจำนวน 1 ครั้งในปีนี้

หลังทราบข้อมูลการจ้างงานจะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์มีการปรับแข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และถือเป็นระดับสัปดาห์ที่ค่าเงินดอลลาร์มีเปอเซ็นต์การปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบกับค่าเงินปอนด์ จะพบว่าค่าเงินดอลลาร์ขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.2% ที่ระดับ 96.0132 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลงมา.7% ที่ระดับ 113.95 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดปรับขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 เดือนบริเวณ 114.17 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินเยนยังถูกกดดันจากรายงานของบีโอเจ ที่ระบุว่า อาจไม่จำกัดการเข้าซื้อพันธบัตร เพื่อหนุนให้ดัชนีราคาในประเทศปรับตัวขึ้น โดยการขายออกเป็นวงกว้างผ่านตลาดพันธบัตร

ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.2% ที่ระดับ 1.1403 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์บริเวณ 1.2871 ดอลลาณ/ปอนด์

• รายงานจาก Wall Street Journal ระบุว่า รายงานนโยบายครึ่งปีเบื้องต้นของเฟดที่มีการเปิดเผยเบื้องต้นเมื่อคืนวันศุกร์ พบว่า เฟดมีแนวทางที่ยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยปราศจากแนวทางการพิจารณาใหม่ๆ แต่ก็มีการกล่าวเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสี่ยง หากมีการปับเปลี่ยนกฎแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน

• สำนักข่าว Market Watch รายงานว่า ร่างรายงานการดำเนินนโยบายครึ่งปีของเฟดที่ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวต่อสภาคองเกรสนั้น ยังคงมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการปรับลดยอดงบดุลที่จะเริ่มต้นขึ้นในปีนี้ ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 8 ปีที่เข้าสู่ภาวะฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี รายงานการดำเนินนโยบายครึ่งปีของเฟดยังเป็นไปในลักษณะเดียวกับรายงานการประชุมลาสุดประจำเดือนมิ.ย. เพียงแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการที่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะนำรายงานดังกล่าวรายงานต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยจะเข้าพบต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะเข้าพบต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาเป็นลำดับต่อไป ระหว่าง 12 – 13 ก.ค.นี้ตามลำดับ

• นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เผยว่า ในการประชุมผู้นำ G20 พบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีท่าทีที่ดีกับทาง นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียในการพบกันครั้งแรก และในการพบกันครั้งนี้ทั้ง 2 ผู้นำมหาอำนาจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหารือประเด็นซีเรีย หลังจากที่ประชุมเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันระหว่าง สหรัฐฯ, รัสเซ๊ย และจอร์แดน ต่อกรณีเหตุรุนแรงบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย

ขณะที่ นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีการพบกันกับผู้นำรัสเซียครั้งนี้ว่า มีการพูดคุยหลายเรื่องกับทางนายปูติน และคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้วยดี และเรามีการพูดคุยกันที่ดีหรือเรียกว่าดีมากๆ ในการหาแนวทางดำเนินร่วมกันระวห่างรัสเซีย ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีทิศทางที่ดีมากขึ้นสำหรับรัสเซีย สหรัฐฯ และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นเกียรติมากที่ได้พบกัน

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับข้อตกลงการค้า หลังร่วมประชุมกับทางเม็กซิโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเม็กซิโก แสดงความคาดหวังว่า ข้อตกลงทั่วไปเกี่ยวกับNAFTA จะกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งในช่วงสิ้นปี 2017

• ราคาน้ำมันดิบปิดทรุดตัวลงเกือบ 3% จากปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ท่ามกลางปริมาณยอดส่งออกน้ำมันของกลุ่มโอเปกที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในปีนี้ จึงสร้างคงามไม่แน่ใจต่อความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในการจำกัดภาวะอุปทานล้นตลาดทั่วโลก

น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 1.4 เหรียญ หรือคิดเป็น -2.9% ที่ระดับ 46.71 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์บริเวณ 46.28 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.29 เหรียญ หรือคิดเป็น -2.8% ที่ระดับ 44.23 เหรียญ/บาร์เรล และระหว่างการซื้อขายลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 43.78 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี น้ำมันดิบทั้ง 2 ระเภทมีระดับการปิดรายสัปดาห์ที่ร่วงลงต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ จากในรอบ 7 สัปดาห์ โดยน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์นี้ร่วงลง 3.9% ขณะที่น้ำมันดิบ Brent สัปดาห์นี้ร่วงลง 2.5%

• ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Clipperdata ระบุว่ ปริมาณอุปทานทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป อันจะเห็นได้ว่ายอดส่งออกน้ำมันกลุ่มโอเปกอยู่ที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิ.ย. ปี 2016 แม้ว่าทางกลุ่มโอเปกจะมีการบรรลุข้อตกลในการลดกำลังการผลิตจำนวน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันก็ตาม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com