นักวิเคราะห์คาด ข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ ซึ่งตัดภาษีออกจากสินค้านำเข้า-ส่งออกนี้ จะช่วยให้การค้าระหว่างทั้ง 2 ภูมิภาคมีอิสระมากขึ้นถึง 99% โดยสินค้าประเภทยานพาหนะจากญี่ปุ่น และสินค้าทางการเกษตรจากยุโรป มีแนวโน้มจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
การเจรจาการค้าระหว่างยุโรปและญี่ปุ่นได้ดำเนินการมาถึง 4 ปีแล้ว เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านอุปสงค์จากทั้ง 2 ฝ่าย แต่ภายหลังจากการเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีแนวคิดเชิงกีดกันการค้า ส่งผลให้ญี่ปุ่นและยุโรปเร่งการเจรจาเพื่อให้บรรลุข้อตกลงโดยเร็วเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการค้าขายกับสหรัฐฯ และเพื่อเป็นการส่งสัญญาณการต่อต้านนโนบายเชิงกีดกันการค้าของสหรัฐฯอีกด้วย
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าสัญญาการค้าเสรีระหว่างยุโรปนี้ ถือได้ว่า Win-Win กันทั้ง 2 ฝ่าย และตัวเขาเองยังได้หวังว่าจะเป็นการช่วยโน้มน้าวให้บรรดาประเทศในสนธิ TPP ได้แก่ ออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ชิลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, เปรู, สิงคโปร์, และสหรัฐฯ เร่งพิจารณาที่จะฟื้นฟูสนธิสัญญา TPP อีกครั้ง
ที่มา: CNBC