• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 7 กรกฏาคม 2560

    7 กรกฎาคม 2560 | Economic News


 


• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ พบว่า รายงานการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนมิ.ย. ออกมาแย่กว่าที่คาดแตะ 153,000 ตำแหน่ง แต่ก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะอ่อนตัวพอที่จะทำให้เฟดเผลี่ยนความคิดเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยได้ ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาแย่กว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีคนว่างงานเพิ่ม 4,000 ราย สู่ระดับ 248,000 ราย

• สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ ออกมาดีขึ้นในเดือนมิ.ย. ที่ระดับ 57.4% จาก56.9% ในเดือนก่อนหน้า

• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในตลาดเอเชียเช้านี้ แต่ภาพรวมสัปดาห์นี้อยู่ในทิศทางแข็งค่า โดยนักลงทุนรอคอยข้อมูลการจ้างงานของภาครัฐบาลสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ หลังจากที่ข้อมูลแรงงานอื่นๆเมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลง

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 95.836 จุด ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับขึ้นเล็กน้อย +0.2% ในสัปดาห์นี้ ด้านค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 113.23 เยน/ดอลลาร์ โดยสัปดาห์นี้ค่าเงินเยนแข็งมีการอ่อนค่าประมาณ 0.8% ทำจุดสูงสุดบริเวณ 113.69 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค.

ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.1% แถวระดับ 1.1417 ดอลลาร์/ยูโรในเช้าวันนี้ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงประมาณ 0.1%

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ที่ระดับ 2.391% และล่าสุดในตลาดเอเชียวันนี้ทรงตัวบริเวณ 2.374% หลังจากที่ปิดตลาดบริเวณ 2.369%

• ผู้อำนวยการนักวิเคราห์ค่าเงินจาก Global-info Co. กล่าวว่า นักลงทุนในตลาดเอเชียดูจะไม่ต้องการถือครองค่าเงินดอลลาร์ในวันนี้ก่อนทราบข้อมูล Non-Farm Payrolls หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานเอกชนเมื่อคืนนี้ออกมาอย่างน่าผิดหวัง

• นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะเข้าพบคณะกรรมาธิการกำกับดูแลการเงินสภาคองเกรสเป็นเวลา 2 วัน โดยจะเป็นการรายงานการดำเนินนโยบายครึ่งปีในวันที่ 12 – 13 ก.ค.นี้

• นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐฯ ให้มีการสนับสนุนการลงทุนภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น กระตุ้นภาคนวัติกรรม, รถไฟ และการศึกษา ที่ภาวะการขยายตัวของผลผลิตนั้นประสบภาวะไม่ค่อยสดใสนัก

• ตลาดกำลังจับตาการพบกันโดยตรงเป็นครั้งแรกระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในวันนี้ หลังนายทรัมป์ได้เคยเผยว่า ตนต้องการร่วมมือกับรัสเซีย เพื่อหยุดยั้งความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรีย

• บรรดาข้าราชการระดับสูงของสหรัฐฯเตรียมต้อนรับตัวแทนจากประเทศจีน ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ เพื่อเจรจาเกี่ยวสนธิทางการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินการกดดันให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือผ่านทางการค้า

• สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐในสหรัฐฯจำนวน 7 รัฐ ยังคงไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เปิดไตรมาสที่ 3/2017 ซึ่งได้แก่ รัฐคอนเนตทิคัต, รัฐอิลลินอยส์, รัฐแมสซาชูเซตส์, รัฐเพนซิลเวเนีย, รัฐโอเรกอน, รัฐโรดไอแลนด์, และรัฐวิสคอนซิน

• รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามอนุมัติให้บรรดาบริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ สามารถถือครองสัญญาเช่าและเร่งอัตราการผลิตน้ำมันได้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการขุดเจาะน้ำมันและแร่เหล็กในประเทศให้สูงขึ้น

• ยอดค้าปลีกอังกฤษประจำเดือนมิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี ท่ามกลางสภาพอากาศที่อบอุ่น ประกอบกับยอดค้าปลีกที่ออกมาอ่อนแอเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 หลังจากที่อังกฤษได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากการโหวต Brexit จึง่วยหนุนให้ยอดค้าปลีกเมื่อเดือนที่ผ่านปรับตัวขึ้น แม้ผลสำรวจจะชี้ให้เห็นว่าบรรดาผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลงก็ตาม

• ผลสำรวจโดย REC ชี้ให้เห็นว่าอัตราค่าจ้างแรงงานอังกฤษปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 19 ปี ท่ามกลางจำนวนลูกจ้างที่ลดลงหลังจากเกิดความกังวลในกรณี Brexit ซึ่งอาจส่งผลให้บีโออีพิจารณาเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินได้

• ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้นและมีการทำจุดสูงสุดระหว่างวัน โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ออกมาลดลงกว่าที่คาดการณ์แตะระดับ 6.3 ล้านบาร์เรล แต่กิจกรรมการกลั่นน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่ายอดนำเข้าน้ำมันดิบจะลดลง จึงส่งผลให้ภาพรวมสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯอยู่ที่ระดับ 502.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.

ราคาน้ำมันดิบ WTI ระหว่างการซื้อขายมีปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 46.53 เหรียญ/บาร์เรล ก่อนที่จะปิดตลาดที่ระดับ 45.52 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับขึ้น 39 เซนต์ ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ระหว่างวันทำจุดสูงสุด 49.18 เหรียญ/บาร์เรล และปิดตลาด 48.11 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับขึ้น 32 เซนต์

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com