• รายงานประชุมเฟดระหว่างวันที่ 13-14 มิ.ย. แสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นแตกต่างกันมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและผลที่อาจกระทบต่อแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รายละเอียดของการประชุมแสดงให้เห็นว่า เฟดยังคงมีมติหนุนแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีสมาชิกเฟดหลายรายที่ต้องการให้เฟดประกาศเริ่มต้นการลดยอดงบดุลในพอร์ตในช่วงสิ้นเดือนส.ค. แต่ก็มีสมาชิกเฟดบางรายที่ต้องการรอจนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้
อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดส่วนใหญ่มีมุมมองว่าการอ่อนตัวของข้อมูลเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้มาจากปัจจัยชั่วคราว แต่สมาชิกเฟดหลายรายก็แสดงความกังวลว่าการชะลอตัวของข้อมูลเศรษฐกิจและการอ่อนตัวของเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้อาจกลายเป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบายของเฟดได้
• หลังทราบรายงานประชุมเฟด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นมีการอ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่าหลายเดือน ขณะที่อัตราผลตอบแทนระยะยาวอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 2.3285% จากระดับ 2.346%
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนยังคงตอบรับกับท่าทีที่เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีสัญญาณอ่อนตัวของเงินเฟ้อ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นได้ 0.06%
อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัวแถวระดับ 96.296 จุดในเช้าวันนี้ โดยตลาดรอคอยถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิกเฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเป็นลำดับต่อไป
• ด้านค่าเงินเยนก็ยังมีปริมาณความต้องการในฐานะ Safe-Haven อยู่ หลังจากที่เกาหลีเหนือ กล่าวว่า การทดสอบอาวุธนิวเคลียตัวใหม่ที่เรียกว่า ICBM สามารถบรรจุหัวรบนิวเคลียร์และยิงได้ไกลข้ามทวีป จึงทำให้ค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าอีก 0.05% แถวระดับ 113.21 เยน/ดอลลาร์
• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% แตะระดับ 1.1339 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อวานนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1.1313 ดอลลาร์/ยูโร
• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ อันได้แก่ ยอดคสั่งซื้อภาคโรงงานร่วงลงเกินคาดแตะระดับ -0.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีความอ่อนแอ แม้ว่าเฟดจะยังเดินหน้าถอนการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ตลาดให้ความสำคัญไปยังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในวันศุกร์นี้
• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ตลาดรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานเอกชน, ดัชนี PMI ภาคบริการ และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานคืนนี้ พร้อมกับถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดไม่ว่าจะเป็น นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก, นายเจอโรม โพเวล สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด ที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ได้
• รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเม็กซิโกเผย การพบกันระหว่างนายเอ็นริเก เปนญา เนียโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ ณ ประเทศเยอรมนี เขาไม่คาดว่าผู้นำทั้งสองจะสามารถบรรลุข้อตกลงสำคัญใดๆได้แม้แต่อย่างเดียว
• รัฐบาลอังกฤษได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ที่หอคอยGrenfell ในเมืองลอนดอน หลังผู้ว่าเมืองเซลซีและเคนซิงตัน ขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากการบริหารที่ไม่เหมาะสมเพื่อบรรเทาทุกข์จากเหตุดังกล่าว
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -4.12% แตะระดับ 45.13 เหรียญ/บาร์เรล โดยเป็นระดับการร่วงลงหนักที่สุดในรอบเดือน ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -3.7% ที่ระดับ 47.79 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันของกลุ่มโอเปกที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่ทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาในตลาด
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักหลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ตลาดหุ้นปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังรายงานประชุมเฟดแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ดี การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบวานนี้ ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและจำกัดการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ