• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับแข็งค่าในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมันดิบที่เข้ากดดันพันธบัตรสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาประมาณ 0.05% แถวระดับ 97.699 จุด จากระดับ 97.871 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน
ค่าเงินเยนแข็งค่าลงอีก 0.2% แถวระดับ 111.22 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ปรับขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 1 เดือนบริเวณ 111.79 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรทรงตัวแถวระดับ 1.1137 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์วานนี้ บริเวณ 1.1119 ดอลลาร์/ยูโร
ด้านค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลัง นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารอังกฤษ ลดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเงินปอนด์ยังคงทรงตัวแถวระดับ 1.2630 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ร่วงลงมากว่า 0.9% วานนี้ โดยร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือน 1.2603 ดอลลาร์/ปอนด์
• คณะกรรมการสืบสวนพิเศษแห่งสภาคองเกรส ได้เพิ่มเป้าหมายการสืบสวนเพิ่มเติมไปที่นายบิจัน เคน (Bijan Kia) หุ้นส่วนทางธุรกิจของนายไมเคิล ฟลิน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เกี่ยวกับกรณีความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและรัสเซีย
• โพลสำรวจของ CBS พบว่าความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันที่มีต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลดลงไปสู่ระดับ 36% จากกรณีการสืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างเขาและรัสเซีย
• รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดการซ้อมรบเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธเกาหลีเหนือเมื่อช่วงบ่ายนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่ากองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นสามารถรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าวได้
• เกิดเหตุระเบิดขนาดเล็กขึ้นในบริเวณสถานีรถไฟในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม รายงานระบุไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายได้ถูกทหารยิงเสียชีวิตทันที โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ให้การเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ว่าเป็นการก่อการร้ายที่ล้มเหลว
• ผลสำรวจโดยรอยเตอร์ส เกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกับความกังวลทางเศรษฐกิจของบริษัทญี่ปุ่น พบว่า ธุรกิจญี่ปุ่นกังวลเกี่ยวกับการลดลงของปริมาณอุปสงค์ต่างชาติในอีก 3 ปีข้างหน้ามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ความกังวลอันดับรองลงมาคือเรื่องของจำนวนแรงงานที่จะลดลงในอนาคต
• ผลสำรวจความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเอเชีย โดย Thomson Reuters แสดงให้เห็นว่า บรรดาธุรกิจในเอเชียมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ระดับ 74 จุด ในไตรมาสที่ 2/60 เพิ่มขึ้นจาก ระดับ 70 จุดของไตรมาสที่ 1/60 โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่งในหลายๆประเทศ ประกอบกับความกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เริ่มผ่อนคลาย
• ในการเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปในกรณี Brexit เมื่อวานที่ผ่านมา อังกฤษได้เป็นฝ่ายปราชัยไปในการเจรจาเรื่องระยะเวลาของการถอนตัวออกจากสหภาพ โดยอังกฤษยินยอมที่จะบรรลุข้อตกลงเรื่อง Exit Bill กับทางสหภาพก่อน จึงจะสามารถเจรจาเกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาได้
• นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุน กล่าวว่าสภาวะการเมืองอังกฤษกำลังเข้าสู่จุดผลิกผัน จึงมีโอกาสที่เศรษฐกิจอังกฤษจะชะลอตัว และอาจส่งผลให้ Brexit ถูกยกเลิกไปได้
• ราคาน้ำมันปรับลดลงทำจุดต่ำในรอบหลายเดือน หลังจากเหล่านักลงทุนเริ่มหมดความเชื่อมั่นกับมาตรการปรับลดอัตราการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกว่าจะไม่สามารถช่วยหนุนราคาน้ำมันได้ตามที่ตั้งความหวังได้จริง
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.2% ที่ระดับ 45.91 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.2% ที่ระดับ 43.43 เหรียญ/บาร์เรล