• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2560

    19 มิถุนายน 2560 | Economic News


 

•  นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีกระทรวง Brexit ของอังกฤษกล่าวว่าในการเจรจาด้านการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปวันนี้ เขาจะเสนอข้อตกลงที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ขณะที่เขาคาดว่าอังกฤษน่าจะออกจากสหภาพอย่างเป็นทางการในภายในเดือนมีนาคม ปี 2019 ขณะที่การเจรจาวันแรกจะเริ่มต้นภายในวันนี้

•  รายงานระบุว่า อังกฤษควรแน่ใจว่าเหล่านายจ้างสามารถเข้าถึงแรงงานที่มีผีมือและไร้ผีมือจากสหภาพยุโรป หลังจากการเริ่มต้นเจรจาออกจากอียูหรืออาจมีความเสี่ยงที่เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจในอังกฤษ

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สถาบันบุคลากรและการพัฒนา กล่าวว่า ประเทศอาจเกิดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนแรงงานและเกิดความสูญเสียทางธุรกิจหากเดินหน้าออกจากอียู โดยไร้ซึ่งแผนใหม่สำหรับการดึงดูดแรงงาน

•  นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและพรรครีพับลิกันกำลังจะเผชิญกับปัญหาสำคัญของนโยบายปฏิรูปภาษี ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีขององกรค์เอกชนที่อาศัยอัตราภาษีที่ต่ำในต่างประเทศ ด้วยการโอนเงินจากต่างแดน

โดยคณะบริหารของประธานาธิบดีและบรรวุฒิสภาได้ระดมกำลังตรวจสอบวิธีการดังกล่าวมาโดยตลอด จึงคาดว่ารับบาลสหรัฐฯน่าจะเปิดเผยรายละเอียดของแผนดังกล่าวได้ภายในช่วงสัปดาห์หน้าก่อนวันที่ 4 กรกฏาคมนี้

•  ยอดส่งออกประจำเดือนพฤษภาคมของญี่ปุ่น ปรับเพิ่มขึ้น 14.9% ซึ่งเป็นอัตราปรับขึ้นที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2015 แม้จะต่ำกว่าที่นักเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 16.1% ก็ตาม โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกรถยนตร์และโลหะอุตสาหกรรม จึงส่งสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

•  จากผลสำรวจโดยรอยเตอร์สพบว่า ราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองใหญ่ของประเทศจีน ปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.7% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราปรับขึ้นที่มากที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2016 จึงแสดงให้เห็นว่าปริมาณอุปสงค์ในตลาดอสังหาฯยังคงมีอยู่สูง แม้รัฐบาลจะออกนโยบายเพื่อคุมราคามาโดยตลอดก็ตาม

•  เกิดเหตุรถตู้พุ่งชนกลุ่มชาวอิสลามในบริเวณมัสยิดของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย ขณะที่นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมากล่าวว่า เหตุดังกล่าวอาจมีส่วนเกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย และจะเรียกบรรดาวุฒิสมาชิกเข้าประชุมด่วนเพื่อหาแนวทางแก้ไขภายในคืนนี้

•  อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเชียทั้ง 3 ประเทศ ได้สั่งการเคลื่อนพลเรือรบของตนในวันนี้ เพื่อลาดตระเวณบริเวณน่านน้ำของตนเอง เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและโจรสลัด

•  รัฐบาลกาตาร์ประนามบรรดาประเทศอาหรับที่ตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับตน โดยระบุเป็นการ “เล่นละครตบตา” ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายชื่อเสียงของประเทศกาตาร์ ขณะที่ผู้นำประเทศคูเวต ออกมาเรียกร้องให้บรรดาประเทศอาหรับยกโทษให้กับรัฐบาลกาตาร์ โดยเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสามัคคีในทวีปตะวันออกกลาง

•  รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่าตลาดน้ำมันกำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ขณะที่การปรับลดอัตราการผลิตของกลุ่มโอเปกยังคงต้องใช้เวลาอีก จนกว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นมาได้

•  ราคาน้ำมันปรับลดลงท่ามกลางแรงกดดันจากปริมาณขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันทั่วโลกยังคงมีเกินความต้องการในตลาด แม้กลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตมาโดยตลอดก็ตาม ประกอบกับความเชื่อมั่นในตลาดที่ลดลงตามปริมาณอุปสงค์ ทำให้ราคาปรับร่วงลงใกล้จุดต่ำเมื่อปีที่ผ่านมาหลังกลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิต

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.4% ที่ระดับ 47.19 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.5% ที่ระดับ 44.54 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com