• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 เมษายน 2560

    20 เมษายน 2560 | Economic News


 


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางตลาดที่กลับมาประเมินความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ในช่วงหาเสียงว่าจะดำเนินการหนุนภาคการเงิน

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.26% ที่ระดับ 99.757 จุด หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดวานนี้บริเวณ 99.465 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และปรับขึ้นอีก 0.17%เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร

โดยเช้านี้ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.94 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยุโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.07126 ดอลลาร์/ยูโร

• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ประเมินว่า โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนมีเพียง 49% โดยปรับลดลงจากระดับ 71% ที่ประเมินไว้ในวันที่ 6 เมษายน

• คณะกรรมการการเงินแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ เตรียมนำเสนอร่างนโยบายการเงินฉบับใหม่ ที่จะมาแทนที่นโยบายปฏิรูปการเงิน ดอด-แฟรงก์ เข้าสู่การพิจารณาโดยสภาคองเกรสในวันที่ 26 เมษายนนี้ โดยนโยบายฉบับใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดทางการเงินภายในประเทศ

• คณะบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่ผิดพลาด หลังพบว่ากองเรือจู่โจมยังคงเคลื่อนทัพไม่ถึงน่านน้ำเกาหลี โดยระบุว่ายังไม่เคยให้ข้อมูลที่แน่ชัดว่าจะเคลื่อนทัพถึงจุดหมายเมื่อไหร่

• นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรํฐฯ กล่าวตำหนิอิหร่าน ที่กำลังจุดประกายการยั่วยุให้เกิดความไม่มั่นคงในหลายๆประเทศในตะวันออกกลาง และรัฐบาลสหรัฐฯก็จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายกับอิหร่านอีกครั้ง

• จากแบบสำรวจโดยรอยเตอร์ส เกี่ยวกับคะแนนความนิยมพรรคการเมืองอังกฤษ หลังนายกรัฐมนตรี เทเรซ่า เมย์ ประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ พบว่าพรรคอณุรักษ์นิยมนำโดยนางเทเรซ่า เมย์ มีคะแนนความนิยมนำอยู่ที่ระดับ 48% ตามมาโดยพรรคแรงงานที่ระดับ 24%

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 3% หลังจากที่สต็อกแก๊สโซลีนปรับตัวขึ้นเหนือความคาดหมายที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ควบคู่กับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น และการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ จึงเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันราคาน้ำมันขณะที่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานกำลังเข้ากดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTIปิด -3.8% ที่ระดับ 50.44 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -3.6% ที่ระดับ 52.93 เหรียญ/บาร์เรล
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com