• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 19 เมษายน 2560

    19 เมษายน 2560 | Economic News


 


• ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นกว่า 2.2% เมื่อคืนนี้ แตะระดับ 1.2846 ดอลลาร์/ปอนด์ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองของอังกฤษ หลังนายกอังกฤษประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่เร็วกว่ากำหนดในวันที่ 8 มิถุนายนนี้

ด้านค่าเงินดอลลาร์ถูกแรงเทขาย และส่งผลให้ค่าเงินยูโรทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1.0731 ดอลลาณ์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าบริเวณ 108.60 เยน/ดอลลาร์ โดยเป็นระดับการเคลื่อนไหวใกล้กับระดับต่ำสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับดัชนีดอลลาร์ร่วงลงหลุดต่ำกว่าระดับ 100 จุดลงมา โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 99.55 จุด

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯออกมา พบว่า ยอดการเริ่มก่อสร้างบ้านประจำเดือนมีนาคมออกมาแย่ลงกว่าที่คาดสู่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต โดยปรับตัวลงประมาณ 80,000 ยูนิตเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดอนุมัติการก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาดเล็กน้อยสู่ระดับ 1.26 ล้านยูนิต

• สำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมีนาคมออกมาดีขึ้นตามคาดที่ระดับ 0.5%

• รายงานการผลิตของเฟดปรับตัวลงแตะระดับ 0.4% ในเดือนมีนาคม โดยปรับตัวลดลงมา โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตรถยนต์และอะไหล่กว่า 3%

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ยอดการเริ่มต้นก่อสร้างบ้านปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ขณะที่ผลผลิตชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จึงยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีสัญญาณชะลอตัวอยู่ในไตรมาสแรกของปีนี้ จึงอาจลดโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมิถุนายนนี้ได้

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีคำสั่งปฏิรูปโครงการวีซ่า (H-1B) สำหรับแรงงานต่างชาติ เพื่อส่งเสริมการจ้างงานชาวอเมริกัน ตามนโยบายอเมริกันต้องมาก่อน “America First”

• คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ จะเริ่มเปิดรับร่างข้อเสนอการแก้ไชภาษีของพรรครีพับลิกันในสัปดาห์ ถึงแม้จะมีสัญญาณว่ากำหนดการที่นโยบายปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ควรจะแล้วเสร็จ อาจต้องถูกเลื่อนไปเป็นช่วงปลายปีนี้

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจแห่งเม็กซิโก กล่าวว่า สนธิสัญญาการค้าในคาบสมุทธแปซิฟิก (TPP) ยังสามารถนำกลับมาใช้งานได้ แม้สหรัฐฯจะลงชื่อถอนตัวออกไปแล้วก็ตาม เพียงแค่ต้องมีการแก้ไขเนื้อหาในสัญญาบางส่วนเท่านั้น

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวลง 24 เซนต์ ที่ระดับ 52.41 เหรียญ/บาร์เรลโดยระหว่างวันลงไปทำระดับต่ำสุดบริเวณ 52.01 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 7 เมษายนที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวลง 47เซนต์ ที่ระดับ 54.89 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ระหว่างวันลงไปแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 54.61 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 7 เมษายนที่ผ่านมาเช่นกัน

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 1% หลังจากที่สถาบัน API รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวน้อยลงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่า ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบในเดือนหน้ามีโอกาสจะเพิ่มสูงขึ้นในรอบกว่า 2 ปี

• การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบในตลาดขณะนี้ เปรียบเสมือนกับ “การชักกะเย่อ” กันระหว่างข่าวการขยายระยะเวลาการผลิตของกลุ่มโอเปกที่ถือเป็นปัจจัยหนุนตลาด ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯถือเป็นแรงกดดันต่อราคาน้ำมันขาลง

• ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2017 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.4% ในเดือนมกราคม ท่ามกลางภาคการผลิตและการค้าที่ขยายตัวขึ้นในยุโรป ญี่ปุ่น และจีน แต่ยังคงกล่าวเตือนว่า นโยบายกีดกันทางการค้าอาจเป็นปัจจัยลบต่อการขยายตัวไปทั่ว

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นมา 0.4% สู่ระดับ 1.2% ขณะที่ยูโรโซนและจีนปรับเพิ่ม 0.1% ที่ระดับ 1.7% และ 6.6% ตามลำดับ

สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทางไอเอ็มเอฟประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะทรงตัวที่ระดับ 2.3% โดยยังคงเป็นระดับที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 1.6% ในปี 2016 โดยได้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะดำเนินการปรับลดภาษีและเพิ่มค่าใช้จ่ายให้ภาครัฐบาล รวมทั้งปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษที่ระดับ 2.0% ในปีนี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com