• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 12 เมษายน 2560

    12 เมษายน 2560 | Economic News


 

• ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินยูโร และค่าเงินปอนด์ในวันนี้ จากภาวะความตึงเครียดทางการเมืองที่ลดความตึงเครียดทางการเมือง จึงทำให้ค่าเงินเยนกลับมาน่าสนใจในฐานะ Safe-Haven

ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนหันกลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินเยน ตราสารหนี้ และทองคำ ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่กำลังจะมาถึง และความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะดำเนินการทางทหารแก่ซีเรียและเกาหลีเหนือ

ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 109.350 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะขยับขึ้นมาทรงตัวบริเวณ 109.465 เยน/ดอลลาร์

ด้านค่าเงินยูโรที่ปรับอ่อนค่าลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนเมื่อคืนนี้ แตะระดับ 116.02 เยน/ยูโร โดยปรับอ่อนค่าติดต่อกัน 13 วันทำการแล้วเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน แต่หากเทียบกับค่าเงินดอลลาณ์ จะพบว่าค่าเงินยูโรอยู่ในทิศทางแข็งค่าโดยวันนี้ปรับตัวขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1.0610 ดอลลาร์/ยูโร

สำหรับค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 136.6 เยน/ปอนด์ แต่หากเทียบกับค่าเงินดลอลาร์จะอยู่ในระดับทรงตัวบริเวณ 1.2489 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ปรับแข็งค่าขึ้นไปได้0.6%

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 100.71 จุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนปรับอ่อนค่าลงมาประมาณ 0.3%

• กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นเตรียมส่งเรือรบจำนวนหนึ่งสู่น่านน้ำเกาหลีเหนือเพื่อไปรวมตัวกับกองเรือจู่โจมของสหรัฐฯ เพื่อเป็นการข่มขวัญเกาหลีเหนือไม่ให้มีการทดสอบขีปนาวุธเพิ่มเติม

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้หัวหน้าฝ่ายต่างๆเสอนแผนเพิ่มเติมเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยนายมิค มัลวานีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณของนายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อขาวว่า อาจมีการจัดอบรมหน่วยงานต่างๆถึงวิธีการที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามภายใต้แผนงบประมาณของนายทรัมป์ ซึ่งอาจมีการหั่นค่าใช้จ่ายด้านการต่างประเทศและโครงการต่างๆภายในประเทศ

• นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โทรศัพท์เข้าทำเนียบขาวเมื่อช่วงสายวันนี้ เพื่อเจรจาให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือด้วยวิธีสันติ

• ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน (PPI) ประจำเดือนมีนาคมชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จากการร่วงลงของราคาแร่เหล็กและถ่านหิน เพราะได้รับแรงกดดันอันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการผลิตแร่เหล็กของจีนจากอุปสงค์ที่ลดลง ที่กำลังส่งผลต่อกลุ่มโลหะในช่วงปลายปีนี้

โดยดัชนี PPI เดือนมีนาคมปรับตัวขึ้นได้เพียง 0.3% ซึ่งถือเป็นระดับการขยายตัวที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2016 หรือปรับตัวลงกว่าครึ่งจากเดือนก่อนหน้า

ด้านดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้ออีกหนึ่งตัวของจีนก็ขยายตัวได้ปานกลาง โดยปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมีนาคม จากระดับ 0.8% ในเดือนก่อนหน้า

• นาย วูลฟ์กัง ชอยเบิล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของพรรค SPD ที่มีนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนปัจจุบันเป็นผู้นำพรรค กล่าวว่า เขาอาจเสนอแผนการปรับลดภาษีปานกลางสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง หลังการเลือกตั้งในเดือนกันยายนนี้ โดยอาจปรับลดภาษีลงเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.592 หมื่นล้านเหรียญ) ต่อปี จึงทำให้นักเศรษฐศาสตร์ มีมุมมองว่า การปรับลดดังกล่าวอาจช่วยหนุนการอุปโภคบริโภคของเอกชนได้เพียงเล็กน้อย

• จากผลสำรวจโดย Reuters ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้มีคะแนนความนิยมนำ 2 อันดับแรกคือ นายเอมมานูแอล มาครง และนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครจากพรรคขวาสุด โดยนางมารีนมีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย คาดว่าจะต้องมาตัดสินกันในรอบที่สองของการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี นายชอง-ลุก เมลังชง (Jean-Luc Melenchon) จากพรรคฝ่ายซ้าย เริ่มได้รับคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนติด 4 อันดับแรก จึงเป็นอีกผู้สมัครที่น่าจับตามอง

• นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศระบุว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในกรณีเกิดสงครามระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ คือการที่สงครามแพร่ขยายวงกว้างออกไป เนื่องจากทางเกาหลีเหนือมีการติดตั้งแท่นปล่อยขีปนาวุธในบริเวณชายแดนทางใต้ ซึ่งสามารถใช้ยิงโจมตีฐานทัพทหารของสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในเกาหลีใต้และในญี่ปุ่นได้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็อาจเกิดความสูญเสียต่อบริเวณโดยรอบ และเป็นการบังคับแบบกรายๆให้ประเทศที่ระบุมาเข้าร่วมสงคราม

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อในวันนี้ โดยถือเป็นการปัรบตัวขึ้นต่อเนื่องยาวนานนับตั้งแต่สิงหาคมปี 2016 หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียรายงานว่าได้กล่าวโน้มน้าวให้กลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มออกไปจากช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้

วันนี้น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 20 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.36% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริเวณ 56.43 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 18 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.34% ที่ระดับ 53.58 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี หากวันนี้ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้ ก็อาจเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง 7 วันทำการ และอาจยาวนานกว่าเดือนสิงหาคมปี 2016 ที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะสามารถปรับเพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่ปรับตัวขึ้นได้ 6%

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com