• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 เมษายน 2560

    10 เมษายน 2560 | Economic News


 

• ถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ถือเป็นประเด็นสำคัญของคืนนี้ โดยถ้อยแถลงของเธออาจกล่าวย้ำถึงความตั้งใจในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และบางทีอาจกล่าวถึงการปรับลดยอดงบดุลซึ่งอาจเริ่มต้นก่อนช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งการปรับลดยอดงบดุลที่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปได้ด้วยนั้นอาจหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นได้

• นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกแถลงการณ์ในออสเตเลียวันนี้ โดยยังคงยืนยันถึงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯภายใต้คณะบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตด้วยอัตราที่ควบคุมได้ จึงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ยังคงไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสำคัญใดๆต่อมุมมองเศรษฐกิจของเฟด

• การประชุมระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างราบรื่นกว่าที่คาดการณ์ โดยจีนพร้อมที่จะให้ความร่วมกับสหรัฐฯ ในการเปิดช่องทางการลงทุนในตลาดการเงิน และยินดียกเลิกระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวมีกำหนดที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน เพื่อป้องกันโอกาสที่จะเกิดสงครามทางการค้าขึ้นระหว่างทั้ง 2 มหาอำนาจ

• ธนาคาร Citigroup ระบุว่า มีความเป็นไปได้ 35% ที่นายมานูเอล มาครอง จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขณะที่นายฟรองซัว ฟียง มีความเป็นไปได้ 30%

ขณะที่นางมารีน เลอแปน มีโอกาสเพียง 10% จากโพลล์ล่าสุด จึงมีความเป็นไปได้ยากมากที่จะชนะ

• นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายทาโร อาโซะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะจัดการประชุมด้วยกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเจรจาเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจมหภาค การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการค้าระหว่างประเทศ

• กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยยอดเกินดุลการค้าประจำเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ระดับ 2.81 ล้านล้านเยน (2.526 หมื่นล้านเหรียญ) ซึ่งถือว่าเป็นยอดเกินดุลที่มากที่สุดนับจากเดือนมีนาคมปี 2016 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.62 ล้านล้านเยน นับได้ว่าญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าติดต่อกันทั้งสิ้น 32 เดือน

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองซีเรีย แม้ว่าการขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.45% ที่ระดับ 55.49% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 0.46% ที่ระดับ 52.48 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com