• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 7 เมษายน 2560

    7 เมษายน 2560 | Economic News


 


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นวานนี้ แต่น่าจะเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดก่อนทราบผลการหารือกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯและจีน ที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ ประกอบกับตลาดรอคอยรายงานจ้างงานสหรัฐฯในคืนนี้ โดยเช้านี้ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นต่อบริเวณ 100.72 จุด จากระดับ 100.69 จุดเมื่อคืนนี้

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนโดยช่วงต้นตลาดคืนวันพุธทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 3สัปดาห์บริเวณ 100.85 จุด หลังจากที่ ADP เผยการจ้างงานเอกชนดีขึ้นเกินคาด ก่อนจะย่อตัวลงมาแถวระดับ 100.45 จุด หลังทราบรายงานประชุมเฟดที่จะทำการลดยอดงบดุลในปีนี้

• สำหรับค่าเงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 110.80 เยน/ดอลลาร์ แต่หลังจากมีข่าวว่าสหรัฐฯปล่อยมิสไซน์เข้าสู่ซีเรียก็ส่งผลให้ค่าเงินเยนกลับสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งและลงไปทำจุดแข็งค่ามากสุดบริเวณ 110.2 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.0646 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์จากการที่ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินของอีซีบี

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจภาคแรงงานสหรัฐฯออกมาสอดคล้องกันในทิศทางที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของเอกชน (ADP) ที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 263,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม หรือปรับตัวสูงขึ้น 18,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลล่าสุดถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2014 จึงบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และอาจหนุนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในปีนี้

• ขณะที่เมื่อคืนนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับตัวลง 25,000 รายเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ซึ่งนอกจากข้อมูลจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่109 แล้ว ข้อมูลล่าสุดยังเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ 25 เมษายน ปี 2015

• สรุปรายงานประชุมเฟดเดือนมีนาคม พบว่า สมาชิกเฟดส่วนใหญ่มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันในการเริ่มต้นการลดยอดงบดุล 4.5 ล้านล้านเหรียญในช่วงปลายปีนี้ ตราบเท่าที่ข้อมูลเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยยอดงบดุลดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่เฟดเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเงิน ควบคู่กับการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำและกระตุ้นการจ้างงาน รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

• ในคืนนวันพุธราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +0.2% ที่ระดับ 51.15 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +0.4% ที่ระดับ 54.36เหรียญ/บาร์เรล โดยที่ราคาน้ำมันดิบทั้งสองยังคงปิดปรับระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา

• ขณะที่เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.1% ที่ระดับ 51.70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +1% ที่ระดับ 54.89 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ แต่บรรดานักวิเคราะห์ก็ยังคงเฝ้าระวังต่อปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นเป็นประวัติการณ์ 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com