• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2560

    31 มีนาคม 2560 | Economic News


 


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์วานนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากแรงซื้อทางเทคนิค และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ขณะที่ความไม่แน่นอนในยูโรโซนกดดันให้เกิดแรงเทขายในค่าเงินยูโร และปรับอ่อนค่าลงจากระดับสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1.07 ดอลลาร์/ยูโร โดยลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.0681 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 15 มีนาคม

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เช้านี้เคลื่อนไหวบริเวณ 100.47 จุด หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อคืนนี้ที่ระดับ 100.6 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรเช้านี้ทรงตัวบริเวณ 1.0686 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนเช้านี้ทรงตัวที่ระดับ 111.78 เยน/ดอลลาร์

• ผลการประกาศข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯเมื่อคืนนี้พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4/2016 ขยายตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยสู่ระดับ 2.1% ขณะที่ประมาณการณ์ครั้งที่ 2 อยู่ที่ระดับ 1.9% ท่ามกลางการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นจึงช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและชดเชยยอดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากทีสุดในรอบ 2 ปี

อย่างไรก็ดี ข้อมูลขยายตัวได้ช้าลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าทีขยายตัวได้ 3.5% ในไตรมาสที่ 3/2016 ซึ่งถึงแม้ว่าข้อมูลจีดีพีไตรมาสที่ 4 ที่ประกาศออกมาจะมีการปรับทบทวนสูงขึ้น แต่ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2016 ของสหรัฐฯกลับขยายตัวได้เพียง 1.6% ซึ่งถือเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 หลังจากที่ขยายตัวได้ 2.6% ในปี 2015

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดสู่ระดับ 258,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ออกมาดีขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เพราะมีผู้ว่างงานลดลง 3,000 ราย และข้อมูลล่าสุดยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 108 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการเก็บสถิติในปี 1970

• นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯมีความสดใสอยู่ในขณะนี้จากนโยบายการเงินสหรํฐฯที่ดูเหมือนจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งเฟดเองก็ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดจำนวนพันธบัตรในพอร์ตฟอลิโอ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รุนแรงเกินไป (Overheating) พร้อมแสดงความเชื่อมั่นต่อการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด หลังจากที่ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในรอบ 3 เดือน

• สำนักข่าวรอยเตอร์ส มีมุมมองต่อคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดยังบ่งชี้ว่าเฟดน่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากกว่าจำนวน 2 ครั้งในปีนี้

• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.7% ที่ระดับ 50.35 เหรียญ/บาร์เรล และเมื่อวานนี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 50.47 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +1% ที่ระดับ 52.96 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุด 53.10 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากที่ประเทศคูเวตให้การสนับสนุนการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก

• รายงานจากสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA ระบุว่า ราคาน้ำมันทั่วโลกไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้ แม้ว่าจะมีความพยายามของประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิตก็ตาม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com