• เงินดอลลาร์ทรงตัวจากระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 99.212 จุด เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากปรับลงไปแตะที่ระดับ 98.858 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. เนื่องจากในตลาดเห็นว่าโอกาสในการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการคลังของประธานาธิบดีสหรัฐฯลดลงอย่างมาก จากความล้มเหลวของเขาในการปฏิรูปด้านการรักษาพยาบาล
ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 1.0865 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดในช่วงก่อนหน้า นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา
• นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องการที่จะส่งร่างนโยบายปฏิรูปภาษีดังกล่าวสู่การลงมติในสภาคองเกรสภายในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันของทุกๆฝ่าย
• ในวันนี้ นายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อดูจะไปได้ดีในการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนมากมาย โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุด จากการที่พรรครีพับลิกันล้มเหลวในการเสนอกฎหมายสุขภาพที่จะมาแทนที่ “Obamacare”
• ผลสำรวจล่าสุดจาก Ipsos Sopra Steria พบว่า นายเอมมานูแอล มาครง จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ถึงแม้คะแนนจากผลสำรวจจะพบว่า นายเอมมานูแอล จะมีคะแนนตามนางมารีน เลอ แปน อยู่ที่ 24% ต่อ 25% แต่ในการเลือกตั้งรอบที่ 2 นายเอมมานูแอลจะมีคะแนนนำถึง 62% ต่อ 38%
อย่างไรก็ดี เขายังมีความกังวลต่อคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวที่อาจหลุดต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด
• หนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีควรเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ท่ามกลางข้อมูลเงินเฟ้อที่เริ่มเข้าสู่เป้าหมาย และคาดหวังว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะออกมาดีขึ้นจนเข้าสู่ช่วงการประชุมในเดือนมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ เงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการดำเนินนโยบายของอีซีบี ซึ่งมีการฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าภาพรวมจะยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่ธนาคารกำหนดไว้ 2%
• ผู้บริหาร DIHK Chambers of Commerce จากเยอรมนี กล่าวว่า Brexit จะส่งผลทางลบให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในอังกฤษและการลงทุนในเยอรมนีจะลดลงอย่างมากในระยะยาว
• ธนาคาร ICBC ระบุว่า การผลักดันภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯให้กลับไปลงทุนในประเทศของนายทรัมป์ อาจเป็นการเปิดโอกาสให้จีนสามารถลงทุนในเม็กซิโกได้มากขึ้น
โดยจะเห็นได้ว่า หลังจากที่บริษัท Ford Moto Co (F.N) ได้ทำการยกเลิกโรงงานมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญในเม็กซิโก ก็ส่งผลให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ทาง ICBC มีมมุมองว่า ภาคอุตสาหกรรมที่ถอนตัวไปของสหรัฐฯอาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้จีนมากขึ้น
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนการจากอ่อนค่าของดอลลาร์ อย่างไรก็ดียังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้นและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกว่าจะเพียงพอต่อตลาดหรือไม่
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 18 เซนต์ ที่ระดับ 50.93 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 20 เซนต์ ที่ระดับ 47.93 เหรียญ/บาร์เรล
• รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งประเทศอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า มาตรการปรับลดอัตราการผลิตของกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะได้รับการขยายเวลาออกไปอีกอย่างแน่นอน แต่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา และจัดการประชุมหารือร่วมกันระหว่างประเทศให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน