• อดีตประธานกรรมการธนาคาร Export-Import Bank of China กล่าวว่า กรณีอังกฤษออกจากอียูจะเป็นการสร้างโอกาสครั้งใหม่สำหรับการค้าเสรีระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจระหว่างจีนและอังกฤษ
แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าและการต่อต้านระบบการค้าเสรีจะเกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน แต่อังกฤษอาจพร้อมที่จะเปิดตลาดมากกว่าอียู โดยการไร้ซึ่งประสิทธิภาพในนโยบายพืชผลทางการเกษตรของอียู และข้อขัดแย้งในการพิจารณาข้อตกลงการค้าเหล็กกับจีน ถือเป็นตัวอย่างจากการกีดกันทางการค้าของอียู
• ผลประกอบการภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับรายปี อยู่ที่ระดับ 1.01 ล้านล้านหยวน (1.47 หมื่นล้านเหรียญฯ) โดยได้รับอานิสงค์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตั้งแต่ถ่านหิน เหล็ก และแร่ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันยอดนำเข้าที่แข็งแกร่ง บ่งชี้ถึงการปรับตัวขึ้นของกิจกรรมทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นอาจช่วยหนุนการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed-Asset) และอาจส่งผลให้ภาคอุตสากรรมที่ชะลอตัวของจีนมีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เพื่อเริ่มลดระดับหนี้จำนวนมากของประเทศได้ ซึ่งจะถือเป็นปัจจัยสำคัญขั้นต้นของภาครัฐบาลในปีนี้
• นางมารีน เลอ แปน ผู้ลงสมัครการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวในการหาเสียงของเธอเมื่อวานนี้ว่าหากชนะการเลือกตั้ง เธอจะดำเนินการเตรียมความพร้อมกับกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปกับประเทศในกลุ่มเพื่อเตรียมความพร้อมและป้องกันความโกลาหลที่อาจขึ้นไปในตัว
อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจ Reuters พบว่า นางมารีน เลอ แปน ถึงแม้จะผ่านการเลือกตั้งในรอบแรกวันที่ 23 เมษายน แต่จะไปพ่ายแพ้ในรอบที่ 2 วันที่ 7 พฤษภาคม
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากปริมาณการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น และความไม่แน่ใจที่ว่ากลุ่มโอเปกจะขยายเวลาของมาตรการปรับลดอัตราการผลิตจากเดิมที่จะสิ้นสุดในช่วงกลางปี 2017 ออกไปหรือไม่
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง 0.65% ที่ระดับ 50.47 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 0.85% ที่ระดับ 47.56 เหรียญ/บาร์เรล