• ในการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ พรรคประชาชนเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตย นำโดยนายมาร์ค รูท นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้รับชัยชนะ โดยได้จำนวนที่นั่งในรัฐสภาทั้งสิ้น 33 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 150 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคเพื่ออิสรภาพของนายกรีต์ ไวล์เดอร์ ได้จำนวนที่นั่งในรัฐสภาทั้งสิ้น 20 ที่นั่ง
ชัยชนะของนายมาร์ค รูทท์ ส่งผลให้ตลาดผ่อนคลายความตึงเครียดเกี่ยวกับโอกาสที่อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายกับกรณี Brexitลงไปได้
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยื่นของงบประมาณเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พิธีสาบานตนรับตำแหน่ง โดยจะเพิ่มงบประมาณให้กับการทหารเพื่อเสริมสร้างการป้องกันประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และการดำเนินการสร้างกำแพงพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
• ธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) และข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อีก 0.1% วันนี้ จึงทำให้อัตราดอกเบี้ย ของทั้ง 2 โครงการปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.05% และ 3.20%ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี จากการประชุมรัฐสภาจีนเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณการออกนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากภาวะหนี้สินในประเทศ ภายในปีนี้
• ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อมูลปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดน้อยลง ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้เฟดจะไม่ได้ให้สัญญานเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนครั้งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปก็ตาม
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.8% ที่ระดับ 49.25 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brentปรับตัวสูงขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.9% ที่ระดับ 52.28 เหรียญ/บาร์เรล