• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ พบว่า ข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาสที่ 4/2016 ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยยังอยู่ระดับเดิม 1.9% จากการปรับทบทวนภาคการลงทุนในรัฐบาลและธุรกิจที่ชดเชยการปรับตัวขึ้นจากการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภค
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวได้ 1.6% ตลอดปี 2016 โดยปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 หลังจากที่ขยายตัวได้ 2.6% ในปี 2015
• สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญตัวอื่นเมื่อวานออกมาดีกว่าที่คาด ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเขตชิคาโกออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 57.4 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 50.3 จุดในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดอย่างมากสู่ระดับ 114.8 จุด
• เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น จากถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดบางส่วนที่หนุนกระแสคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ขณะเดียวกันตลาดก็รอคอยถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% แตะระดับ 101.48 จุด
• ขณะที่ค่าเงินเยนเช้านี้อ่อนค่าขึ้น 0.3% สู่ระดับ 113.16 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมา 0.1% ที่ระดับ 1.0565 ดอลลาร์/ยูโร
• นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวเป็นเสียงเดียวกันกับสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ในเชิงคุมเข้มทางการเงิน เช่นเดียวกับ นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนมีนาคมนี้ ท่ามกลางการขยายตัวที่เต็มที่ของภาคการจ้างงาน และเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ตลาดประเมินโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมีนาคมสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับระดับ 30% ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์
• ทางทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังคงขาดมติที่เป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับนโยบายที่จะมาแทนที่โอบามาแคร์ ท่ามกลางสัญญาณความสับสนเของพรรครีพับลิกันในขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมตัวขึ้นรายงานต่อสภาคองเกรสวันนี้
• น้ำมันดิบ WTI ปิด -0.1% ที่ระดับ 54.01 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.6% ที่ระดับ 55.59 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในกรอบแคบๆ จากความกังวลเกี่ยวกับสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นของสหรัฐฯ จึงบดบังข้อมูลการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
