• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560

    14 กุมภาพันธ์ 2560 | Economic News




• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยถ้อยแถลงประธานเฟดต่อสภาคองเกรสที่อาจมีนัยยะต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้ทรงตัวที่ระดับ 100.94 จุด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ 20 มกราคมที่ผ่านมาบริเวณ 101.11 จุด

เช้านี้ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมาเล็กน้อยบริเวณ 113.69 เยน/ดอลลาร์ จากระดับอ่อนค่าเมื่อวานนี้บริเวณ 114.17 เยน/ดอลลาร์ ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.0602 ดอลลาร์/ยูโร

• นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ยังมีสัญญาณความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯภายใต้การดำเนินการของนายทรัมป์ แต่เฟดอาจกำหนดเป้าหมายการประชุมเกี่ยวกับการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบและเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

• นายโรเบิร์ต เคพแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวหนุนให้เฟดค่อยๆขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้จะเป็นการดีกว่าปล่อยให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการดำเนินการที่ล่าช้า

• ผลสำรวจของเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่า มาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเดือนมกราคมจะปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2015 โดยคาดว่าค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อในช่วง 2 ปีจะปรับตัวขึ้นได้แตะระดับ 3.0% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับ 2.8% ในเดือนธันวาคมและ 2.5% ในเดือนพฤศจิกายน

• ในคืนวันศุกร์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.6% ที่ระดับ 53.86 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +1.8% ที่ระดับ 56.63 เหรียญ/บาร์เรล โดยตลาดน้ำมันได้รับอานิสงค์จากรายงานของกลุ่มโอเปกที่ว่าสามารถปรับลดกำลังการผลิตได้กว่า 90% ตามพันธสัญญาของข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

• ข้อมูลผลสำรวจจาก 6 แหล่ง เผยว่า สมาชิก 11 ประเทศของกลุ่มโอเปก จะสามารถปรับลดกำลังการผลิตภายใต้ข้อตกลงได้ที่ระดับ 29.92 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 92%

• รายงานจาก EIA ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว ระบุว่า กลุ่มโอเปกสามารถปรับลดกำลังการผลิตภายใต้ความร่วมมือของข้อตกลง โดยสามารถร่วมมือกันลดกำลังการผลิตได้มากถึง 90% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทำได้สูงกว่าข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่เคยตกลงร่วมกันในปี 2009 ซึ่งในปีนั้นลดได้ 60%

• ราคาน้ำมันดิบกลับมาร่วงลงเกือบ 2% เมื่อคืนนี้ ท่ามกลงสัญญาณปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นสร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ จึงบดบังการร่วมมือกันระหว่างสมาชิกโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อผลักดันราคาน้ำมันในตลาด โดยน้ำมันดิบ WTI ปิด -1.7% ที่ระดับ 52.93 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brentปิด -1.9% ที่ระดับ 55.61 เหรียญ/บาร์เรล

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือกลับมาทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเชิงยั่วยุ ขณะที่ทางสหรัฐฯน่าจะมีวิธีตอบโต้เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com