• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 มกราคม 2560

    16 มกราคม 2560 | Economic News



• กรณี Brexit ถือเป็นข่าวใหญ่ในปี 2016 ที่ผ่านมา กล่าวถึงการที่อังกฤษต้องการจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ประสงค์ถอนตัวออกจากกลุ่ม นับตั้งแต่ก่อตั้งสหภาพยุโรปมานานถึง 59 ปี

ทั้งนี้ แม้จะมีการลงประชามติอย่างเป็นทางการภายในประเทศแล้วก็ตาม ณ ปัจจุบัน ยังไม่ถือว่าอังกฤษหมดสิทธิ์การเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นการ อย่างไรก็ดี การแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางเทเรซ่า เมย์ ซึ่งจะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ มีแนวโน้มจะประกาศใช้ มาตราที่ 50 จากสนธิสัญญาลิสบอนภายในเดือนมีนาคม 2017 นี้ ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริง UK จะหมดสิทธิ์การเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการภายในเดือนเมษายนปี 2019

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจมีการปลุกระดมให้ชาวอังกฤษผู้ที่โหวต No กับกรณี Brexit มีการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์มากขึ้นภายในประเทศ เพื่อเตรียมรับมือ “Hard Brexit”

อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนกำลังจับตามองการแถลงการณ์ของนางเมย์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เพื่อศึกษาว่ารัฐบาลอังกฤษจะจัดการกับเรื่องของการเดินทางระหว่างประเทศหรือการค้าเสรีอย่างไร หากเกิดกรณี Hard Brexit ขึ้นจริง

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า ตนเตรียมนำนโยบาย”ประกันสุขภาพสำหรับทุกคน” แทนที่โอบาม่าแคร์ อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก แต่ได้ระบุว่านโยบายนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์และเตรียมนำเสนอต่อรัฐสภาในเวลาอันใกล้นี้

• นโยบายการค้าของทรัมป์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยตลาดให้ความสำคัญไปยังพิธีสาบานตนในการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ รายงานจาก CNBC ระบุว่า พิธีสาบานตนดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ โดยตลาดประเมินถึงสิ่งที่นายทรัมป์น่าจะกล่าวแก่สาธารณชนในการรับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก นอกจากนี้ นี้ตลาดยังจับตาไปยังถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดต่างๆ รวมทั้งรายงานผลประกอบการ และข้อมูล CPI ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่วัดเงินเฟ้อ

ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ ยังมีรายงานการประชุมประจำปี “World Economic Forum” ในกรุงดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยตลาดคาดว่าการประชุมครั้งนี้น่าจะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะจะมีการปรากฎตัวของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งคาดว่าจะกล่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะถือเป็นการกล่าวถ้อยแถลงครั้งแรกของเขาเช่นกัน

• นางเซเนีย ยูเดวา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย กล่าวว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจรัสเซียและตลาดการเงินมากกว่ากรณี Brexit และการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ในการแถลงการณ์ The Asian Financial Forum ณ ฮ่องกง ระบุว่า นโยบายทางเศรษฐกิจระดับมหัพภาคของรัสเซีย มีผลจากงบประมาณภาครัฐและการตัดสินใจของธนาคาร เพื่อให้เกิดความเสถียรภาพและความแข็งแกร่งหลังจากที่ทั้งสองปัจจัยข้างต้นประสบภาวะยุ่งเหยิงเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

• ราคาน้ำมันดิบทรงตัววันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันก็ยังคงถูกกดดันจากความไม่มั่นว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกจะสามารถลดอัตราการผลิตลงได้จริงหรือไม่

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงเพียง 0.1% อยู่ที่ระดับ 55.40 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลดลงเพียง 0.1% เช่นกัน อยู่ที่ระดับ 52.32 เหรียญ

นักวิเคราะห์สังกัด OANDA ประเทศสิงค์โปร์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวตามค่าเงินดอลลาร์มากกว่าที่จะเป็นราคาของน้ำมันดิบ โดยมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่จะถึงนี้เป็นปัจจัยหลัก


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com