MTS Help Center

• รายงานจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯกลับสู่ภาวะแข็งแกร่งในช่วงสิ้นปี 2016 โดยระดับการจ้างงานเพิ่มขึ้นเหนือ 2 ล้านคนในช่วง 6 ปี ขณะที่เช็คค่าจ้างปรับตัวขึ้นมากที่สุดและขยายตัวได้ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผย ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-Farm Payrolls) ออกมาแย่กว่าที่คาดที่ระดับ156,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม โดยเป็นการปรับตัวลง 48,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ทางกระทรวงแรงงานสหรัฐฯปรับทบทวนขึ้นมาที่ระดับ 204,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานออกมาสูงขึ้นตามคาดที่ระดับ 4.7% ซึ่งข้อมูลการจ้างดังกล่าวที่ชะลอตัวลงอาจมาจากสภาพอากาศที่รุนแรงในเขตพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี.

ทางด้านอัตราค่าแรงเฉลี่ยรายชั่วโมงประจำเดือนธันวาคมปรับสูงขึ้นเกินคาดแตะระดับ 0.4% จากระดับ -0.1% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 นอกจากนี้ อัตราค่าแรงในเดือนธันวาคมที่ผ่านมายังปรับตัวขึ้น 2.9%เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2015

• สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆในคืนวันศุกร์ออกมาแย่กว่าที่คาด โดยข้อมูลยอดดุลการค้า (Trade Balance) ประจำเดือนพฤศจิกายนมียอดขาดดุลเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์แตะระดับ -4.52 หมื่นล้านเหรียญฯ หรือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าประมาณ2.9 พันล้านเหรียญฯ โดยยอดการส่งออกลดลง 4 ร้อยล้านเหรียญ แตะระดับ 1.858 แสนล้านเหรียญฯ ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 2.4 พันล้านเหรียญฯ ที่ระดับ 2.311 แสนล้านเหรียญฯ

ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายนออกมาแย่กว่าคาดเช่นกันแตะระดับ -2.4% จากระดับ 2.8% ในเดือนก่อนหน้า

• ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.79% ที่ระดับ 102.26 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้น 1.42% ที่ระดับ 117.05 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ลงไปแถวระดับ 115.34 เยน/ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลง 0.7% แถวระดับ1.0553 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.0598 ดอลลาร์/ยูโร

ขณะที่ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่าลงมา 0.4% ปิดตลาดเอเชียในวันศุกร์ที่ระดับ 6.9185 หยวน/ดอลลาร์ จากความพยายามของกลุ่มผู้กำหนดนโยบายของจีนในการควบคุมการอ่อนค่าของเงินหยวน ประกอบกับการที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะพยายามชะลอการอ่อนค่าของเงินหยวนโดยนักลงทุนบางรายมีข้อสงสัยว่าการแข็งค่าของค่าเงินหยวน มาจากการที่จีนเข้าแทรกแซงโดยการลดสถานะ short ในสกุลหยวน เพื่อเป็นการแทรกแซงเงินทุนไหลเวียนและค่าเงินหยวนให้มีเสถียรภาพก่อนเทศกาลตรุษจีน และการเข้าดำรงตำแหน่งของนายโดนัล ทรัมป์ สิ่งเหล่านี้ ทำให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าช่วงวานนี้สู่ระดับแข็งค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรอบ 2 เดือน และเป็นการแข็งค่าติดต่อกัน 2 วันที่เพิ่มมากที่สุด นับตั้งแต่เริ่มซื้อขายในปี 2010

• ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนธันวาคม โดยปรับตัวลง 4.1 หมื่นล้านเหรียญฯ แตะระดับ 3.011 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงต่อจากที่ปรับตัวลดลงในเดือนพฤศจิกายน 6.906 หมื่นล้านเหรียญ

อย่างไรก็ดี การปรับตัวล่าสุดยังน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์กันว่าจะปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2011ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินหยวนก่อนที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์จะปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากการรับตำแหน่งของนายทรัมป์ อาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อการจัดเก็บภาษีนำเข้าของจีน

นอกจากนี้ ภาพรวมค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปแล้วกว่า 6.6% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในปี 2016 ซึ่งเป็นระดับรายปีที่มีการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 และมีการคาดการณ์กันว่าในปีนี้มีโอกาสที่ค่าเงินหยวนน่าจะอ่อนค่าได้อีกแม้ว่ากลุ่มผู้กำหนดนโยบายล่าสุดจะพยายามชะลอการอ่อนค่าของค่าเงิน

• ค่าเงินปอนด์อังกฤษปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์จากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเตรียมการของรัฐบาลอังกฤษสำหรับการหารือร่วมกับอียูเกี่ยวกับกรณี Brexit ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมนี้

• ผู้อำนวยการนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้อาจเผชิญกับวิกฤตทางการเงินจากผลกระทบของ Brexit

• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.2% ที่ระดับ 54.58 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -0.1% ที่ระดับ 56.85 เหรียญ/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากกลุ่มนักลงทุนที่มีความกังวลว่าแผนของกลุ่มโอเปกจะช่วยสร้างสมดุลให้แก่ตลาดได้อย่างช้าๆ เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตรายอื่นๆอาจเลี่ยงส่วนแบ่งของพวกเขาต่อแผนการปรับลดกำลังการผลิต