MTS Help Center

ถ้อยแถลงสมาชิกเฟด

เมื่อวานนี้มีถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดหนุนให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ราย ได้แก่ 1.นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ (มีสิทธิออกเสียง) 2.นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ (มีสิทธิออกเสียง) และ 3.นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (ไม่มีสิทธิออกเสียง)

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ (มีสิทธิออกเสียง) ระบุว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงเข้ามากระทบ ทั้งนี้เฟดจะต้องตอบสนองต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากปัจจัยทางการเมือง แม้ที่ผ้ามาตลาดโลกจะผ่อนคลายลงมากกว่าที่หลายๆฝ่ายคาดว่าจะเป็นเมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ (มีสิทธิออกเสียง) ระบุว่า เฟดต้องไม่ตื่นตระหนกจากการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินหลังการเลือกตั้งสหรัฐ เนื่องจากยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่านโยบายการคลังและการค้าจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร ดังนั้นแผนของเฟดยังคงเป็นการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้นางเมสเตอร์ยังระบุว่า แผนการขึ้นดอกเบี้ยของเธอนั้นเร็วกว่าแผนของเฟดเล็กน้อย โดยเศรษฐกิจสหรัฐกำลังดำเนินไปสู่เป้าหมายของเฟดและน่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า เขาต้องการให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากนโยบายการคลังของนายทรัมป์ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ

น้ำมันดิบ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวสูงขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบปรับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีน้ำมันของรัสเซีย คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกมีโอกาสมากที่จะบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิต