• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2559

    16 พฤศจิกายน 2559 | Economic News

ยอดค้าปลีกสหรัฐ ออกมาดีกว่าคาด

ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน พร้อมกันนี้ยังแก้ไขข้อมูลเดิมในเดือน ก.ย. เป็นปรับตัวสูงขึ้น 1.0% จากเดิมที่ 0.6% ส่งผลให้การเติบโตของยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย. และ ต.ค. รวมกันทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดสำหรับช่วง 2 เดือนนับตั้งแต่ต้นปี 2014

โดยยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และวัสดุก่อสร้างสำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว

ถ้อยแถลงสมาชิกเฟด

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน (มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า มีเฉพาะ “ข่าวร้ายที่รุนแรง” เท่านั้น ที่อาจทำให้เฟดไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ พร้อมกันนี้ยังคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.7% จะเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2.0% ได้ในปี 2017

นายแดเนียล ทารูลโล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด (มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า แม้ว่าในระยะหลังข้อมูลเศรษฐกิจจะออกมาแข็งแกร่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ, ค่าจ้างแรงงานที่ขยายตัวระมัดปานกลาง และอัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เฟดก็ยังควรใช้มาตรการการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังต่อไป นอกจากนี้ยังระบุว่า ต้องติดตามตลาดการเงินอย่างใกล้ชิดภายใต้การบริหารประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อประเมินว่าเฟดควรขึ้นดอกเบี้ยเร็วเท่าใด

นายสแตนลี่ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด (มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า หากถามผมว่า ผมประหลาดใจกับสถานการณ์ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลังทราบผลการเลือกตั้งหรือไม่ คำตอบคือ “ใช่” พร้อมระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกผลกระทบต่อตลาดการเงินในขณะนี้ นอกจากนี้ยังระบุว่า สภาพคล่องในตลาดการเงินของสหรัฐนั้นยังมีเพียงพอ แต่ตลาดน่าจะต้องประสบการเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันบ่อยขึ้น

น้ำมันดิบ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 5.8% ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นการปรับตัวสูงขึ้นในระดับวันสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากผู้เกี่ยวข้องกับแผนการตรึงกำลังการผลิตรายหนึ่ง ที่ระบุว่า กาตาร์, แอลจีเรีย และเวเนซุเอลา กำลังพยายามบรรลุข้อตกลงดังกล่าวให้ได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com