• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 07 พฤศจิกายน 2559

    7 พฤศจิกายน 2559 | Economic News


ดอลลาร์แข็งค่าในวันนี้

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้จากข่าวที่ว่า FBI ยืนยันรายงานเดิมเมื่อเดือน ก.ค. ที่ระบุว่าการใช้อีเมล์ส่วนตัวของนางคลินตันไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดวินัยร้ายแรง โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.55% สู่ระดับ 97.60 จุด

ขณะที่แข็งค่าขึ้นกว่า 1.2% เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนสู่ระดับ 104.53 เยน/ดอลลาร์ และ 0.6% เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.1077 ดอลลาร์/ยูโร




ล่าสุดคลินตันยังนำทรัมป์ได้เล็กน้อย


ผลการเฉลี่ยโพลล์ล่าสุดโดย Real Clear Politics แสดงให้เห็นว่าล่าสุดนางคลินตันนำอยู่ 46.6% ต่อ 44.8%




MOODY’S ANALYTICS คาดหากคลินตันชนะเศรษฐกิจจะเติบโตได้มากกว่าทรัมป์

Moody’s Analytics คาด หากนางฮิลลารี่ คลินตัน สามารถชนะการเลือกตั้งได้ เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 2.7% ในปี 2016 – 2020 ขณะที่หากนายทรัมป์ชนะจะสามารถเติบโตได้เพียง 0.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน

ขณะที่อัตราการว่างงานภายใต้การบริหารของคลินตันในปี 2016 – 2020 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 4.26% ส่วนนายทรัมป์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 4.94%



อย่าตกใจ หากตลาดผันผวนหลังการเลือกตั้ง

ในเวลาหลังจากประธานาธิบดีคนใหม่ถูกเลือก นักลงทุนในตลาดหุ้นจำเป็นต้องทำใจอยู่ความผันผวน แต่ทั้งนี้นักลงทุนไม่ต้องกลัวจนเกินไป เพราะว่าตลาดหุ้นหลังวันเลือกตั้งนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าในระยะยาวตลาดหุ้นจะเป็นเช่นไร

โดยเฉลี่ยแล้วตลาดหุ้นจะแกว่งตัวผันผวนราว 1.5% หลังผลการโหวต อย่างไรก็ดี การแกว่งตัวจะไม่สามารถนำมาคาดการณ์ทิศทางของตลาดหุ้นได้หลังจากผ่านไป 1 ปี อาทิ ในปี 2008 ที่นายบารัค โอบาม่า สามารถชนะนายจอห์น แมคเคน ไปได้ ตลาดหุ้นปรับตัวลงกว่า 5% อย่าไรก็ดีเมื่อผ่านไป 1 ปี ตลาดหุ้นกลับมาบวกได้มากกว่า 10%


(Bloomberg) จากข้อมูลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐย้อนหลัง 22 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1928 ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลง 15 ครั้ง และโดยเฉลี่ยแล้วจะปรับตัวลดลง 1.8% อย่างไรก็ดีเมื่อเวลาผ่านไป 12 เดือน มี 9 ครั้ง ที่ตลาดสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้

นักวิเคราะห์จาก PNC Asset Management Group ระบุว่า การพยายามซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ดีหากตลาดถูกเทขายออกมาและคุณมีเหตุผลที่ดีพอนั่นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยฝุ่นที่ตลบอบอวลอยู่จะค่อยๆจางลงและนักลงทุนในตลาดจะมองว่าเศรษฐกิจยังโอเค




ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ โดยน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.38% สู่ระดับ 44.68 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 1.18% สู่ระดับ 46.1 เหรียญ/บาร์เรล ได้รับแรงหนุนจากรายงานของกลุ่มโอเปกเกี่ยวกับข้อตกลงการตรึงกำลังการผลิตที่ระบุว่า สมาชิกโอเปกทั้ง 14 ยังคงมุ่นมั่นในการลดกำลังการผลิตลง




บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com