• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 02 พฤศจิกายน 2559

    2 พฤศจิกายน 2559 | Economic News

คืนนี้เฟดอาจดัดแปลงถ้อยแถลงเดิมเพื่อบ่งชี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ อย่างไรก็ดีเฟดอาจจะส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. โดยในการประชุมครั้งนี้เฟดจะไม่มีการแถลงข่าวและไม่มีการคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ประกาศออกมาแต่อย่างใด

นอกจากนี้เฟดอาจจะดัดแปลงถ้อยแถลงเดิมในการประชุมเมื่อเดือน ต.ค. 2015 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. 2015 เพื่อส่งสัญญาณถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งอาจดัดแปลงถ้อยแถลงที่ว่า “เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป

ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins คาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. รุนแรงขึ้นบ้าง และอาจใช้ถ้อยแถลงที่อ้างถึงการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปอย่างเช่นในเดือน ต.ค. 2015

ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จาก Bloomberg กว่า 90 คน ไม่มีคนไหนเลยที่คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคืนนี้ ขณะที่จากการคำนวณFed Fund Futures ได้ผลว่านักลงทุนในตลาดคาดว่าเฟดจะมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย

ขณะที่ในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่ผ่านมามีสมาชิกเฟด 3 รายที่ต้องการโหวตขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แก่ 1.นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ 2.นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และ 3.นางเอส


เธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส โดยคาดการณ์ว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดก็จะมีเสียงที่ต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 เสียงเช่นเดิม


นักเศรษฐศาสตร์ 370 คน ระบุ ชาวอเมริกันไม่ควรโหวตให้นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดี

นักเศรษฐศาสตร์ 370 คน (ในจำนวนนี้มีนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบล 8 คน) ได้ร่วมกันเผยแพร่บทความที่มีใจความว่า เหตุใดชาวอเมริกันจึงไม่ควรโหวตให้ทรัมป์

โดยในบทความสรุปว่า หากทรัมป์ได้รับการเลือกตั้งขึ้นมา ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะทำลายทั้งเศรษฐกิจ,ประชาธิปไตยและความมั่งคั่งของประเทศ พร้อมกับปิดท้ายบทความว่า "เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณไม่โหวตให้ทรัมป์"

อย่างไรก็ดี ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมามีนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 306 คนที่ออกบทความต่อต้านนโยบายเศรษฐกิจของนางคลินตัน แต่ทั้งนี้ในบทความไม่ได้ระบุว่าแนะนำไม่ให้โหวตให้เธอ




ทองมีโอกาสขึ้น ไม่ว่าทรัมป์หรือคลินตันชนะศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ (HSBC)

นักวิเคราะห์จาก HSBC ระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ตลาดคาดการณ์ว่า หาก นายทรัมป์ เป็นผู้ชนะอาจช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากกว่าชัยชนะของ นางคลินตัน โดยนายทรัมป์ อาจส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างน้อย 8% หรืออาจปรับขึ้นแถวระดับ 1,500 เหรียญในสิ้นปีนี้ได้ แต่หาก นางคลินตัน ได้รับชัยชนะ อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้แถว 1,400 เหรียญ

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำในปีนี้ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งผู้ท้าชิงทั้งสองยังคงมีการหนุนนโยบายทางการค้าที่น่าจะกระตุ้นความต้องการของทองคำเนื่องจากทองคำนั้นเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าได้ และเพิ่มค่าใช้จ่ายของภาครัฐ



ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 เนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่จะเผยออกมาในวันนี้ หลังจากสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น 9.3 ล้านบาร์เรล


โดยน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.9% สู่ระดับ 46.25 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.54% สู่ระดับ 47.88 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com