• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2559

    27 ตุลาคม 2559 | Economic News

ค่าเงินดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ -0.09% สู่ระดับ 98.634 จุด หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 99.119 จุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อนโยบายการเงินของเฟดและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ถูกสะท้อนไปในค่าเงินดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นสัญญาณใดๆก็ตามที่ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นว่าเฟดจะไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้จะกดดันค่าเงินดอลลาร์ลง

นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ที่ระดับ 74%


ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือน ก.ย. ออกมาที่ระดับ 593,000 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 3.1% เนื่องจากมีการปรับลดตัวเลขเดิมในเดือน ส.ค. ลง สู่ระดับ 575,000 ยูนิตจากเดิมที่ 609,000 ยูนิต แต่ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบรายปียอดขายบ้านใหม่เพิ่มสูงขึ้น 29.8% ในเดือน ก.ย.

นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo ระบุว่า แม้มีการปรับลดตัวเลขเดิมลง แต่ตลาดบ้านสหรัฐฯยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยราคาบ้านเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 2% ในเดือน ก.ย. นอกจากนี้สต็อกบ้านยังคงอยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดย ณ ระดับปัจจุบันจะใช้เวลาขายที่มีอยู่ในสต็อกทั้งหมดเพียง 4.8 เดือน

ขณะที่ดุลการค้าสหรัฐฯออกมาพบว่าการขาดดุลลดลงอย่างมากที่ระดับ 5.61 หมื่นล้านเหรียญ จากที่คาดว่าจะขาดดุล 6.06 หมื่นล้านเหรียญ และข้อมูลสต็อกสินค้าขายส่งของสหรัฐฯที่ออกมาปรับตัวสูงขึ้น 0.2% และสต็อกสินค้าขายปลีกปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ก็เป็นข้อมูลที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์จาก Barclays เพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯในไตรมาสที่ 3 สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6% เนื่องจากข้อมูลดุลการค้าที่ขาดดุลน้อยลง และสต็อกสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น


น้ำมันดิบ

น้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลง 1.6% สู่ระดับ 49.18 บาท/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในประเด็นปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมเดือนหน้าได้หรือไม่ แม้ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะออกมาปรับตัวลดลง 5.53 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม

โดยอิหร่าน, ลิเบีย, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา คาดการณ์ว่าจะได้รับการยกเว้นในแผนการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ขณะที่อิรัก ระบุว่า ไม่ต้องการเข้าร่วมในแผนดังกล่าว ส่วนรัฐวิสาหกิจน้ำมันของอินโดนีเซียเองก็คาดการณ์ว่าจะผลิตน้ำมันดิบสูงขึ้น นอกจากนี้ผู้แทนรัสเซียประจำกลุ่มโอเปคเองก็ออกมาระบุว่า การลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงนั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับรัสเซีย ดังนั้นหาต้องการลดกำลังการผลิตลงจริง ภาระจะตกไปอยู่กับ ซาอุดิอาระเบีย, คูเวต และUAE


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com