• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2559

    26 ตุลาคม 2559 | SET News

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในวันนี้ โดยดัชนี Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวลดลง 0.7% ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงจากผลประกอบการที่ออกมาน่าผิดหวังเมื่อคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวสูงขึ้น 0.15% สู่ระดับ 17,391.84 จุด จากการอ่อนค่าของค่าเงินเยนทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หนุนการเพิ่มขึ้นของกำไรหุ้นกลุ่มส่งออก

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวลดลง 0.5% สู่ระดับ 3,116.31 จุด หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการคุมเข้มภาคธนาคาร ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเรื่องสภาพคล่องตึงตัว


ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลง โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 1.0% สู่ระดับ 23,325.43 จุด ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นจีน


ขณะที่เหล่านักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนหน้า และการประชุมนโยบายทางการเงินของเฟดในเดือนธันวาคม รวมถึงสภาพเศรษฐกิจจีน


ดัชนี S&P 500 ณ ขณะนี้อยู่ห่างจากระดับสูงสุดตลอดกาลน้อยกว่า 2% โดยการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีฯต้องขอบคุณหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยในวันจันทร์ที่ผ่านมามีหุ้นเพียง 14 ตัวเท่านั้นที่ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี 3 ตัวในนั้นมี Market Cap ใหญ่ติดอันดับ 5 อันดับแรก ซึ่งช่วยหนุนดัชนีได้มาก

อัลฟาเบท (บริษัทแม่ของกูเกิล), ไมโครซอฟท์ และ เฟสบุ๊ค ซึ่งมี Market Cap ใหญ่เป็นอันดับที่ 2, 3 และ 5 ตามลำดับ ในตลาดสหรัฐฯ โดยมี Market Cap รวมกันทั้งสิ้น 1.4 ล้านล้านเหรียญ ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมตลาดก็ไม่ได้แย่นัก ดังนั้นจึงส่งผลให้หุ้นดังกล่าวหนุนดัชนีฯขึ้นไปได้มาก

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า บริษัท แอปเปิ้ล, อเมซอนดอทคอม และเฟสบุ๊ค ในปีนี้ช่วยหนุนดัชนี S&P500 ขึ้นมาได้ราว 22 จุด ซึ่งคิดเป็น 20% ของการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีฯในปีนี้ ส่วนไมโครซอฟท์ หนุนราว 5 จุด และอัลฟาเบท หนุนราว 2 จุด

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 สิงหาคม 2559 มีจำนวน 5,949,330.64 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.64% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล จำนวน 4,422,488.53 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 995,932.29 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 507,633.62 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 23,276.20 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างลดลงสุทธิ 10,323.46 ล้านบาท

ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า รายงาน Doing Business ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 46 ซึ่งอยู่ใน 50 ประเทศแรกที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจจาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยรวมแล้ว ประเทศไทยสามารถลดช่องว่างในการดำเนินงานและช่วงห่างจากประเทศชั้นนำต่างๆ โดยได้รับคะแนนจากรายงาน Doing Business 2017 เพิ่มขึ้นเป็น 72.53 คะแนนในปี 60 จากเดิม 71.65 คะแนน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com