MTS Help Center

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงเกือบ 5% โดยคืนวันศุกร์มีการซื้อขายในช่วงก่อนปิดตลาดนิวยอร์กแถวระดับ 1,252 เหรียญ ซึ่งภาพรวมถือเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับตัวลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 2014 ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 1.3% ด้านข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯออกมาผสมผสานกันซึ่งถึงแม้จะออกมาแย่กว่าคาดการณ์แต่ขณะเดียวกันก็มีการปรับทบทวนตัวเลขในเดือนก่อนหน้า จึงยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมนี้

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปิดปรับตัวลดลง 1.1 เหรียญ หรือ -0.9% ที่ระดับ 1,251.9 เหรียญ โดยราคาทองแกว่งตัวกรอบแคบหลังจากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯหนุนโอกาสขึ้นดอกเบี้ยของเฟดขึ้นมาที่ระดับ 62.9%

นักวิเคราะห์บางส่วน ระบุว่า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมีมากขึ้นก่อนจะทราบผลการประกาศข้อมูลในคืนวันศุกร์ จากการที่นักลงทุนตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเชิงบวก อันได้แก่ รายงานจาก ISMในคืนวันพุธ และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันพฤหัสบดี

เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ระบุว่า กลุ่มนักลงทุนมีมุมมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.50-0.75% ในเดือนพฤศจิกายน มีโอกาสเพียง 10% ขณะที่ในเดือนธันวาคมมีโอกาส 66%

กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำ 11.27 ตัน ในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 958.9 ตัน

ผลสำรวจจาก KITCO ระบุว่า ทั้งนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ โดย 78% ของนักวิเคราะห์ และ 57% ของนักลงทุน คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น

ภาคธนาคารสหรัฐฯจะปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวัน Columbus Day แม้ตลาดต่างๆยังคงมีการเปิดให้บริการ แต่มีแนวโน้มว่าปริมาณการซื้อขายน่าจะเบาบางลง

ในสัปดาห์นี้เหล่านักลงทุนกำลังติดตามถ้อยแถลงของเหล่าสมาชิกเฟดซึ่งรวมถึงถ้อยแถลงของนางเจเนตเยลเลน ประธานเฟด ในคืนวันศุกร์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ต้องติดตามได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี, ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกสหรัฐฯในคืนวันศุกร์