MTS Help Center

นักเศรษฐศาสตร์กว่า 78% คาด บีโอเจจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์นี้

ผลการสำรวจโดย Bloomberg ในวันที่ 15-22 ก.ค. ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์จำนวน 32 คนจาก 41 คน (78%) คาดการณ์ว่าบีโอเจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 28-29 ก.ค. นี้

ซึ่งระดับ 78% เป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 3 ปี โดย 3 ปีก่อนหน้านี้เหล่านักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 100% เคยคาดการณ์ว่าบีโอเจจะออกนโยบายเพิ่มเติม

ผลการสำรวจในครั้งนี้ ระบุว่า บีโอเจมีโอกาสเพิ่มการเข้าซื้อกองทุน ETF เพิ่มเติมมากที่สุด (71.8%) รองลงมาคือการลดอัตราดอกเบี้ยให้ติดลบมากขึ้นกว่านี้ (64.1%)

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก JPMorgan Chase & Co ระบุว่า การประชุมบีโอเจในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบว่าบีโอเจจะทำตามสัญญาที่ว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อถึง 2% หรือไม่ นอกจากนี้ หากบีโอเจออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จะเป็นการตอกโต้ผู้ที่เคยสบประมาทบีโอเจว่า “บีโอเจนั้นกระสุนหมดแล้ว”

IMF เพิ่มคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีน หลังแผนปฏิรูปเศรษฐกิจมีความชัดเจนและได้รับแรงหนุน

คริสตีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศเพิ่มคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีนในปี 2559หลังจากที่จีนมี "ความมุ่งมั่นและชัดเจน" ในการปฏิรูปเศรษฐกิจรวมทั้งคอยประคับประคองเศรษฐกิจประเทศอย่างมั่นคง

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่นางลาการ์ดพร้อมด้วยนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และผู้นำจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นอีก 5 คนร่วมกันประชุมโต๊ะกลม ณ อาคารรับรองเตียวหยูไท่ กรุงปักกิ่ง

นางลาการ์ดกล่าวว่า การที่ IMF ปรับเพิ่มอัตราเติบโตเศรษฐกิจจีนในปี 2559 ขึ้นมา 0.1% อยู่ที่ 6.6% นั้นมาจาก 2 เหตุผลด้วยกันได้แก่ "การที่พวกเราได้เห็นแล้วว่าจีนมีความมุ่งมั่นและชัดเจนในการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการที่เศรษฐกิจจีนได้รับแรงสนับสนุนที่จะช่วยผลักดันให้สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้"

ธนาคารจีนกำลังวางแผนแปลงหนี้เสียเป็นหลักทรัพย์

ธนาคารเพื่อการเกษตรของจีน(Agricultural Bank of China Ltd.) กำลังวางแผนที่จะขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)จำนวน 1.07 หมื่นล้านหยวน (1.6 พันล้านดอลลาร์) โดยใช้วิธีการแปลงเป็นหลักทรัพย์เข้าไปขายในตลาดตราสารหนี้ระหว่างธนาคาร

โดยธนาคารฯคาดว่า ราคาขายหลักทรัพย์ดังกล่าวคาดว่าจะมีมูลค่า 29% ของมูลค่าหนี้ ขณะที่คาดการณ์ว่าหนี้เสียที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้อีกครั้ง (Recovery Rate) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 41%

นักวิเคราะห์จาก PIMCO ระบุว่า หนี้สินภาคเอกชนของจีนนั้นปรับตัวสูงขึ้นมากประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้หนี้เสียของจีนปรับตัวสูงขึ้นมาก

นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามของจีนในการจัดการกับปัญหาหนี้สินที่เสื่อมทรามลงของจีน ทั้งการทำสัญญา Swaps ให้กับรัฐบาลท้องถิ่น, การทำข้อเสนอให้ธนาคารในการแปลงตราสารหนี้เป็นตราสารทุน รวมถึงในครั้งนี้ที่แปลงหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เป็นหลักทรัพย์

น้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้เนื่องจากความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด

วันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน ท่ามกลางความกังวลต่อน้ำมันดิบในตลาดโลกและสต็กน้ำมันดิบที่ล้นตลาดในบางเวลา

ราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลดลง 18เซนต์ ที่ระดับ 45.51 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 16เซนต์ ที่ระดับ 44.03 เหรียญ/บาร์เรล