MTS Help Center

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลต่อการทำประชามติของอังกฤษ โดยนักลงทุนพยายามเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ค่าเงินเยน หรือ พันธบัตรรัฐบาล เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ค่าเงินปอนด์ แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่า 6% เนื่องจากนักลงทุนที่ปิดสถานะ Short ของตนเองลงก่อนหน้าการทำประชามติจะเริ่มต้นขึ้น

ดัชนี MSCI Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ในวันนี้

นักวิเคราะห์จาก IG ระบุว่า ตลาดการเงินในขณะนี้มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อผลการทำประชามติ และตลาดสามารถเคลื่อนตัวอย่างรุนแรงในทิศทางใดก็ได้ในอีก 24 ชม. ข้างหน้านี้

วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนปิดสถานะ Short ลงก่อนทราบผลการลงประชามติของอังกฤษ

โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวสูงขึ้น 1.1% สู่ระดับ 16,238.35 ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 วัน

วันนี้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ท่ามกลางปริมานการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงซื้อขายออกไป เพื่อรอผลการลงประชามติของอังกฤษ ทั้งนี้นอกจากประเด็น Brexit แล้ว นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีนและความเสี่ยงที่ค่าเงินหยวนอาจอ่อนค่าลงไปอีก

ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวลดลง 0.5% สู่ระดับ 2,891.96

วันนี้ตลาดฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันต่อเนื่อง5วัน โดยนักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าอังกฤษจะยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป

ดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% สู่ระดับ 20,868.34จุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 วงเงินกว่า 2.733 ล้านล้านบาท ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็นการจัดงบประมาณแบบขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท

โดยประมาณการเศรษฐกิจในปี 60 จะขยายตัวที่ระดับ 3.7-4.2% จาก 3.0-3.5% ในปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น การใช้จ่ายภาคครัวเรือนดีขึ้น เศรษฐกิจมีเสถียรภาพที่ดี และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 60 อยู่ที่ 1.7-2.2% จากระดับ 0.1-0.6% ในปีนี้