• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 15 มิถุนายน 2559

    15 มิถุนายน 2559 | Economic News

นักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในวันนี้

เครื่องมือ FedWatch โดย CME Group ระบุว่า นักลงทุนคาดเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยให้โอกาสเพียง 2% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่คาดเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือน ก.ค. ที่ 21%

ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์จำนวน 41 คน โดย CNBC ระบุว่า นักวิเคราะห์ทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่คาดว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ได้ 1-2 ครั้ง และคาดว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้จนถึงเป้าหมายของตนที่ 2.64% ในช่วงปลายปี 2018

ปัจจัยแวดล้อมเฟดในขณะนี้ มีปัจจัยลบหลายปัจจัย อาทิ การทำประชามติออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ, ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ออกมาไม่สู้ดีนัก บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจจะชะลอตั

อนึ่งตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯนั้นเป็นดั่งดวงประทีปของเฟดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตลาดแรงงานชะลอตัวลงอาจทำให้เฟดต้องชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

นักวิเคราะห์จาก Renaissance Macro Research ระบุ การทำประชามติของอังกฤษนั้นเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญเพียงพอที่จะให้เฟดเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

นักเศรษฐศาสตร์จาก Cornerstone Macro ระบุว่า เราไม่ควรคาดหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ในการประชุมครั้งนี้

นักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วง โดยการประชุมเดือน ก.ย. เฟดน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ขณะที่การประชุมในวันนี้เฟดจะไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างแน่นอน งานหนักของประธานเฟดในการประชุมครั้งนี้คือ จะต้องทำให้เฟดกลับมามีความน่าเชื่อถืออีกครั้ง

นักวิเคราะห์จาก Bankrate คาดการณ์ว่า แม้สหรัฐฯจะมีข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนที่อ่อนแอ แต่ยังคาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะยังไม่ชะลอตัว อย่างไรก็ดีข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของเดือน พ.ค. นั้นผิดปกติ

นักวิเคราะห์ฯ ยังระบุเพิ่มเติมว่า ตลาดนั้นเกลียดความไม่แน่นอน แต่ดูเหมือนว่าความไม่แน่นอนจะประดังเข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งเฟด ทั้งข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งการเลือกตั้ง ดังนั้นให้เตรียมความพร้อมสำหรับความผันผวนที่กำลังจะสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs ระบุว่า จากอัตราการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 4.7%, อัตราค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้น และเงื่อนไขทางการเงินที่ดีขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า เฟดน่าจะไม่สามารถชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปได้นานนัก

ผลโพลล์ Brexit “ออก” กำลังจะนำ “อยู่”



ที่มา : Bloomberg’s Brexit Poll Tracker

เครื่องมือ Brexit Poll Tracker โดย Bloomberg ซึ่งรวบรวมข้อมูลของโพลล์หลายสำนักย้อนหลัง ชี้ให้เห็นว่าผลโหวต “ออก” เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจนใกล้กับระดับ “อยู่” โดยอยู่ที่ระดับ 45.5% ต่อ 45.9%

พร้อมกันนี้ จำนวนผู้ที่ “ยังไม่ตัดสินใจ” เองก็ปรับตัวลดลงมาเรื่องๆเช่นเดียวกัน จากระดับราว 15% ในเดือน เม.ย. สู่ระดับ 8.6% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา


น้ำมันดิบหดตัวลงจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบโดย API ที่เพิ่มขึ้น

ในวันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์เนื่องจากสต็อกน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดจะยังอยู่ต่อไปนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.97% สู่ระดับ 48.02 เหรียญ/บาร์เรล โดยทำจุดต่ำสุดบริเวณ 47.55 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 พ.ค.

วานนี้ API เผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผิดทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล

ทั้งนี้ในวันนี้ จะมีการเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯอีกครั้งโดย EIA โดยนักวิเคราะห์จาก CiTi Futures ระบุว่า หาก EIA เผยออกมาว่าสต็อกน้ำมันดิบนั้นที่ลดลง อย่างน้อยที่สุดก็จะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com