• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 เมษายน 2559

    18 เมษายน 2559 | Economic News





ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับ 94.68 จากระดับสูงสุดของวันที่ 14 เมษายนบริเวณ 94.90 เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ที่ออกมาในเชิงลบ ด้านค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 1.1293 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ1.1229 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนกลับแข็งค่าลงมาในฐานะ Safe-Haven ที่ระดับ 108.08 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ109.730 เยน/ดอลลาร์

รายงานยอดค้าปลีกของสหรัฐฯประจำเดือนมีนาคมปรับตัวลงเกินคาดท่ามกลางการปรับลดกำลังการซื้อกลุ่มสินค้ายานยนต์ของภาคครัวเรือน จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 1/2016 ยังคงไม่ราบรื่น และนั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เฟดต้องระมัดระวังในการดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ระบุว่า อีซีบีจะทำทุกอย่างที่จำเป็นในการกระตุ้นเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันยังไม่เห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินขณะนี้จะสร้างภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์

อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงของการขยายตัวในกลุ่มเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ และการทรุดตัวของราคาน้ำมันดิบ และภาวะความเสี่ยงทางการเมือง

รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ยอดส่งออกจีนในเดือนมีนาคมกลับสู่ภาวการณ์ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือน จึงส่งสัญญาณถึงภาวะมีเสถียรภาพมากขึ้น และหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภูมิภาค

ทั้งนี้ยอดส่งออกของจีนปรับตัวขึ้นกว่า 11.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน และมีค่าเฉลี่ยการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2015

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่กล่าวเตือนว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจไม่สามารถพิสูจน์ว่าอุปสงค์ทั่วโลกมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลยังคงมีความไม่แน่นอนจากที่จีนทำการหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน และจะเห็นได้ว่าแม้ข้อมูลดังกล่าวจะขยายตัวเชิงบวก แต่ข้อมูลจีดีพีในไตรมาสแรกของจีนที่ออกมาตามคาดนั้น บ่งชี้ถึงภาวการณ์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน และข้อมูลเงินเฟ้อจนที่ยังคงทรงตัวจึงมีแนวโน้มว่าจีนอาจตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินได้

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนทราบผลการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -2.75% ที่ระดับ 40.36 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด -1.7% ที่ระดับ 43.1เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่เช้านี้ในตลาดเอเชียราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างหนักหลังการประชุมของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่จำนวน 18 ประเทศ ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ออกมาล้มเหลว โดยปราศจากการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ โดยน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 6.7% แตะระดับ 37.68 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบ Brent ร่วงลง 6.7% เช่นกัน แตะระดับ 40.18 เหรียญ/บาร์เรลในเช้านี้

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของกาตาร์ แถลงการณ์ว่า ที่ประชุมต้องการเวลามากขึ้นเพื่อปรึกษาหารือกันมากกว่านี้ โดยจะมีการจัดประชุมอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ซึ่งประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ในกลุ่มโอเปก กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า หากอิหร่านเข้าร่วมการประชุมโอเปกครั้งต่อไปในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปกก็อาจมีการพูดคุยประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com