• ความแตกต่างระหว่างดัชนีอัตราเงินเฟ้อ 2 ดัชนี CPI และ PCE

    28 มีนาคม 2559 | Economic News


CPI (Consumer price index) มีความคล้ายคลึงกับ PCE (Personal Consumption Expenditures) หลายประการ แต่มีแนวคิดเดียวกันคือติดตามราคาสินค้าที่ถูกซื้อโดยผู้บริโภค

1. PCE เก็บข้อมูลจากการสำรวจยอดค้าปลีกภาคธุรกิจ ขณะที่ CPI เก็บข้อมูลจากการสำรวจผู้บริโภค ดังนั้น CPI สามารถทราบได้ว่าผู้บริโภคใช้จ่ายเงินไปกับอะไรเท่าไหร่ ขณะที่ PCE สามารถทราบได้มากกว่านั้น ซึ่งรวมถึงสินค้าและบริการที่ถูกซื้อโดยผู้ประกอบการหรือรัฐบาล

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การใช้จ่ายเพื่อการรักษาพยาบาล หากผู้บริโภคใช้ประกันสุขภาพ CPI จะครอบคลุมเฉพาะส่วนที่ผู้บริโภคเป็นผู้จ่ายโดยตรงเท่านั้น ขณะที่ PCE จะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันหรือโครงการของรัฐบาลจากประกันสุขภาพนั้นด้วย




2. เนื่องจากแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกันส่งผลให้ CPI ให้น้ำหนักกับค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัย ขณะที่ PCE ให้น้ำหนักกับการรักษาพยาบาล เนื่องจากผู้บริโภคมักจะรายงานว่าได้ใช้จ่ายกับค่าที่อยู่อาศัยมากที่สุด ขณะที่ยอดค้าปลีกจากภาคธุรกิจมักตกไปอยู่ที่การรักษาพยาบาล

ซึ่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsche Bank ประจำสหรัฐฯ แย้งว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคน่าจะอยู่ที่ค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยมากกว่าการรักษาพยาบาล

3. วิธีการถ่วงน้ำหนักสินค้าและบริการต่างๆแตกต่างกัน โดย CPI ใช้วิธีถ่วงน้ำหนักแบบคงที่ ซึ่งจะปรับปรุงทุกๆ 2 ปี ขณะที่ PCE ใช้วิธีถ่วงน้ำหนักแบบ Chain-price ซึ่งจะพิจารณาสินค้าที่ทดแทนกัน(substitutes) ในการคำนวณ ทำให้การถ่วงน้ำหนักมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ

4. ทั้งนี้เฟดให้ความสำคัญกับ PCE มากกว่าดัชนีเงินเฟ้อตัวอื่นๆ เนื่องจาก PCE ครอบคลุมการใช้จ่ายของภาคครัวเรือมากกว่า อย่างไรก็ตามเฟดเองก็คอยจับตาดัชนีเงินเฟ้อตัวอื่นๆเช่น CPI หรือ PPI อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน




บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com