ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์นี้ จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ที่ได้รับแรงกดดันก่อนทราบผลประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ โดยเช้านี้ทองคำปรับตัวขึ้นประมาณ 0.4% ที่ระดับ 1,252.5 เหรียญ
ภาพหลักตลาดยังคงให้ความสำคัญกับการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 – 16 มีนาคมนี้
ในคืนวันศุกร์ทองคำปรับตัวลงกว่า 13 เหรียญ หรือกว่า 1.05% ปิดตลาดที่ระดับ 1,259.4 เหรียญ และลงไปทำจุดต่ำสุดแถวระดับ 1,250 เหรียญ เพราะได้รับแรงกดดันจาการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อนที่เช้านี้จะได้รับแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวาระดังกล่าว จึงทำให้ทองคำรีบาวน์กลับขึ้นมา และภาพรวมในปีนี้มีการปรับขึ้นกว่า 18% ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง จากการเผชิญกับการทรุดตัวของตลาดหุ้นและความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก RJO Futures กล่าวว่า การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์หลังสิ้นสุดการประชุมอีซีบีในวันพฤหัสที่ผ่านมา อาจทำให้เฟดผ่อนคลายมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากพวกเขาพิจารณาว่าเหมาะสมแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเฟดจะคุมเข้มทางการเงินก็ไม่จำเป็นว่าทองคำจะปรับตัวลงเสมอ ในทางตรงข้ามเหล่าเทรดเดอร์กำลังเฝ้าระวังต่อการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อมากกว่าว่าจะบรรลุเป้าหมาย 2% ตามที่เฟดกำหนดหรือไม่
รายงานจาก CFTC ระบุว่า บรรดา Hedge Funds และ Money Mangers เพิ่มการถือครองสถานะ Long Position ของทองคำในตลาด Comex เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากแรงซื้อในฐานะ Safe-Havenจึงหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2015
ผลสำรวจจากคิทโก พบว่า นักเก็งกำไรในตลาดส่วนใหญ่กว่า 77% ยังเชื่อว่าสัปดาห์นี้ทองคำจะปรับขึ้นต่อ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ในตลาดกว่า 64% ยังเชื่อว่าทองคำสัปดาห์นี้เป็นขาขึ้น
นักวิเคราะห์โดยส่วนใหญ่ ยังมองทองคำเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจาก จะมีการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า โดยเครื่องมือ CME Group’s FedWatch tool ระบุว่า นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาส 96.1% คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม และอีก 3.9% คาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง