• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559

    29 กุมภาพันธ์ 2559 | SET News

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในวันนี้พร้อมๆกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐฯและยุโรป ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังจากที่การประชุมกลุ่ม G20 ให้เพียงคำสัญญาที่คลุมเครือว่ากระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.9% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน โดยในเดือน ก.พ. แข็งค่าขึ้นมาแล้ว 7.2% แข็งค่าในรอบเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง 7 วันทำการ

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของทางการจีนหลายคนจะพยายามแสดงถึงความมั่นใจของประเทศในการประชุม G20 เพื่อปัดเป่าความกังวลของนักลงทุนก็ตาม

โดยในวันนี้ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนติดต่อกัน 4 วันทำการสู่ระดับ 6.5452 หยวน/ดอลลาร์ จากระดับ 6.5338 หยวน/ดอลลาร์ ในวันศุกร์ ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงสูงระดับ 6.5490 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนที่สุดนับตั้งแต่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา

ดัชนี Shanghai Composite Index ปรับตัวลดลง 2.86% สู่ระดับ 2,687.98 จุด โดยทำจุดต่ำสุดบริเวณ 2,638.96 จุด หรือลดลงไปกว่า 4.63% ทำจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่ปลายปี 2014

ขณะที่ดัชนี Shenzhen Composite Index ปรับตัวลดลงกว่า 5.37% สู่ระดับ 1,643.36 จุด

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Reorient Financial Markets Ltd ระบุว่า การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นจีนเกิดความผิดหวังจากการประชุม G20 และการที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ของจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก (เมืองเสิ้นเจิ้นสูงขึ้น 4.1% ในเดือน ม.ค. และ 3.2% ในเดือน ธ.ค., เมืองเซี่ยงไฮ้สูงขึ้น 2.6%, เมืองหนานจิงสูงขึ้น 2.5%) และทำให้นักลงทุนย้ายเงินจากการลงทุนในหุ้นไปสู่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ดัชนี Hang Seng Index ปรับตัวลดลง 1.33% สู่ระดับ 19,111.93 จุด

ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงในวันนี้เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงจากตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงอย่างหนัก

ดัชนี Nikkei ปรับตัวลดลง 1.00% สู่ระดับ 16,026.76 จุด ทำให้ภาพรวมในเดือนนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงไป 8.5% เป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 เดือน และสูงที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค. 2012

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในวันนี้เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงจากตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงอย่างหนัก

ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยตัวเลขการส่งออกประจำเดือน ม.ค. หดตัวลง 9.3% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก 1) เศรษฐกิจจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว 2) ผลดีจากปัจจัยชั่วคราวที่ทยอยหมดลง อาทิ การส่งออกรถยนต์รุ่นใหม่และการส่งออกในหมวดทัศนูปกรณ์ (Optical appliances and instruments) ที่ชะลอลงต่อเนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ชะลอตัว และ 3) การหดตัวต่อเนื่องของราคาสินค้าส่งออกในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม

ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัว 17.8% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวในเกือบทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะการนำเข้าในหมวดเชื้อเพลิงที่หดตัวในอัตราที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่ยังลดลงต่อเนื่องขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางไม่รวมเชื้อเพลิงหดตัวตามภาวะการส่งออกที่ซบเซา

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบที่ -0.53% ตามการลดลงของราคาในหมวดพลังงาน สำหรับอัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนจากการจ้างงานในภาคบริการที่ปรับดีขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลที่ 4.1 พันล้านเหรียญ จากมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ลดลง และรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com