MTS Help Center

นาย Nowotny หนึ่งใน 4 สมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบี กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่อีซีบีกำหนด หากราคาน้ำมันยังร่วงลง "เกินคาดหมาย"

เมื่อคืนนี้ IMF ออกรายงาน World Economic Outlook ประจำเดือนมกราคม โดยมีมุมมองที่แย่ลงจากรายงานเมื่อเดือนตุลาคม 2015 โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

ทั้งนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2016 และ 2017 ลง จากเดิม 3.6% สู่ 3.4%ในปี 2016 และ 3.8% สู่ 3.6% ในปี 2017 นับเป็นการปรับลดคาดการณ์เป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้

IMF ให้เหตุผลของการปรับลดคาดการณ์ในครั้งนี้ว่า เนื่องจากการค้าของจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมาก และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอ ซึ่งส่งผลลบต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ตาม IMF ยังคงการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนไว้คงเดิมที่ 6.3% ในปี 2016 และ 6.0% ในปี 2017

นักวิเคราะห์จาก Mizuho Bank กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน นำไปสู่กระแสคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนอาจจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหนุนการขยายตัว ซึ่งการเพิ่มนโยบายหรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกันสำรองพาณิชย์ (RRR) อาจเป็นท่อเลี้ยงสภาพเศรษฐกิจได้

เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีการอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 6 แสนล้านหยวน (9.122 หมื่นล้านเหรียญ) เข้าสู่ระบบภาคธนาคาร เพื่อเสริมสภาพคล่องของตลาดก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นเดือน ก.พ. ผ่านเครื่องมือทางนโยบาย 3 เครื่องมือ ได้แก่Standing Lending Facility (SLF), Medium-term Lending Facility (MLF) และ Pledged Supplementary Lending (PSL)

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าการดำเนินการดังกล่าวสามารถชะลอความจำเป็นที่จะต้องปรับลด RRR (Reserve Requirement Ratio) ลงได้ในอนาคตอันใกล้ แต่ธนาคารกลางจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวให้เพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

ทั้งนี้การใช้มาตรการดังกล่าวทั้ง SLF และ MLF เป็นการให้ภาคธนาคารกู้เงินในระยะสั้น ขณะที่การปรับลด RRR จะเป็นการเพิ่มปริมาณเงินระยะยาว

นักเศรษฐศาสตร์จาก Shenyin & Wanguo Securities ระบุว่า การอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้ ทำให้ความเร่งด่วนในการปรับลด RRR ลดน้อยลง

น้ำมันดิบปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 2003 โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI หมดอายุเดือน มี.ค. ปรับตัวลดลงกว่า 3.30% สู่ระดับ 28.59 เหรียญ/บาร์เรล ในบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลต่อสภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด

ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากที่รายงานจากองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ(IEA) เตือน กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมในการดำเนินนโยบายพลังงาน เนื่องจากสภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด