MTS Help Center

ตัวเลขเศรษฐกิจ

• ไม่มีตัวเลข ศก.สำคัญ

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าการเจรจามีความคืบหน้าไปได้ดี นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 10.78 เหรียญ หรือ 0.32% อยู่ที่ระดับ 3,335.09 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 11.50 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 3,343.40 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 0.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 935.91 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ซื้อสุทธิ 5.71 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 63.39 ตัน

• รายงานการเจรจาระบุว่า สหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่ผ่อนคลายข้อจำกัดในการส่งออกเทคโนโลยี หากจีนยอมลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายากซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่ใช้ในผลิตภัณฑ์พลังงาน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีขั้นสูง 

• นายฮาวเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และจีนได้ เห็นชอบในแนวทางปฏิบัติ เพื่อเดินหน้าตามข้อตกลงภาษีการค้าในรอบแรกที่เจรจากันที่เจนีวา โดยจะมีการ ลดข้อจำกัดในการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็ก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากการประชุม 2 วันที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปในอังกฤษ

• ขณะที่เช้านี้วันนี้ ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่า กฎหมายภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) และภาษีการค้าอื่น ๆ ที่ออกมาตามคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงมีผลบังคับใช้ตามปกติในขณะนี้ ผลจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ทำให้ภาษีตอบโต้และภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นกับแคนาดา เม็กซิโก และจีน (ซึ่งประกาศไปก่อนวันที่ 2 เมษายน 2025) ยังคงมีผลบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.09 จุด หรือ 0.09% มาอยู่ที่ระดับ 99.07 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.462% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.014% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.45%

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขานรับความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะมีความคืบหน้าและช่วยคลี่คลายข้อพิพาทด้านการค้าของทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,866.87 จุด เพิ่มขึ้น 105.11 จุด หรือ +0.25%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,038.81 จุด เพิ่มขึ้น 32.93 จุด หรือ +0.55% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,714.99 จุด เพิ่มขึ้น 123.75 จุด หรือ +0.63%

• ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.3% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.7% เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกระบุว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้มีน้อยกว่า 10%

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า เกาหลีใต้ยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 24 ในเดือนเม.ย. แต่ยอดเกินดุลลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้อยู่ที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเม.ย. ลดลงจาก 9.14 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566

• ผลสำรวจล่าสุดโดย Chief Executive Group พบว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในสหรัฐฯ มีความกังวลน้อยลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. โดยผลสำรวจจากซีอีโอ 277 คนระบุว่า มีเพียง 28% ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแบบไม่รุนแรงหรือชะลอตัวในระยะสั้น และไม่มีใครคาดว่าจะเกิดภาวะถดถอยรุนแรง ซึ่งลดลงจากเดือนพ.ค.ที่มีซีอีโอถึง 38% คาดว่าเศรษฐกิจจะถดถอยแบบไม่รุนแรง และ 8% คาดว่า เศรษฐกิจจะถดถอยอย่างหนักในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนรอคอยผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันนี้

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 31 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 64.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

• แดเนียล ไฮเนส นักวิเคราะห์จากบริษัท ANZ กล่าวว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยโอเปกพลัสซึ่งผลิตน้ำมันประมาณครึ่งหนึ่งของโลก มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.

• สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 370,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• เช้านี้ นายกเทศมนตรีลอสแอนเจลิส, คุณคาเรน บาสส์, ได้ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เล็ก ๆ ของดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านมาตรการเข้มงวดเรื่องผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

• กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนเรียกร้องให้ อี แจ-มยอง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ทวิภาคีในการพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกในเมื่อวานนี้ เพื่อร่วมกันปกป้องความเป็นพหุภาคีและการค้าเสรีเอาไว้ และทำให้มั่นใจว่าห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระดับโลก และระดับภูมิภาคจะมีเสถียรภาพและราบรื่น 

• ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในเดือนก.ค. โดยตั้งเป้าเพิ่มค่าจ้างเฉลี่ยของชาวญี่ปุ่น 50% พร้อมขยายขนาดเศรษฐกิจให้ทะลุ 1 พันล้านล้านเยน (6.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2583

• คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิหร่าน (SNSC) เปิดเผยว่า กองทัพของอิหร่านจะมุ่งเป้าโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ลับของอิสราเอลในทันที หากอิหร่านถูกโจมตี หลังจากที่ก่อนหน้านี้อิหร่านอ้างว่าได้รับข่าวกรองที่ละเอียดอ่อนของอิสราเอล

• เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า รัสเซียยิงโดรนถล่มยูเครนในหลายพื้นที่ของเมืองหลวง หรือราว 7 เขต จาก 10 เขตของกรุงเคียฟเป็นเวลานานหลายชั่วโมง คร่าชีวิตประชาชนไป 2 ราย และมีผู้บาด 4 ราย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.62 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.65 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.75 บาทต่อดอลลาร์ 

• ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ผลสำรวจในเดือนพฤษภาคม 2568 พบว่า ดัชนี ICI ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ ทรงตัว” ที่ระดับ 110.36 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการไหลเข้าของเงินทุน ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ รองลงมาคือสงครามการค้า และความกังวลต่อวินัยการคลัง

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง