• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2568

    9 มิถุนายน 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ

  • Average Hourly Earnings m/m ออกมาที่ 0.4% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% และครั้งก่อนที่ 0.2%
  • Non-Farm Employment Change ออกมาที่ 139K สูงกว่าคาดการณ์ที่  126K และครั้งก่อนที่ 147K
  • Unemployment Rate ออกมา ทรงตัวจากคาดการณ์และครั้งก่อน ที่ 4.2%

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้มีความหวังน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 28.50 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 3,346.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -50.0 เหรียญ หรือ -1.49% อยู่ที่ระดับ 3,303.0 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.43 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 934.21 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ซื้อสุทธิ 4.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 61.69 ตัน
  • ในด้านนโยบายการค้านั้น การพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก นักวิเคราะห์ประเมินการเจรจาซับซ้อนมาก และไม่สามารถจบได้ด้วยการพูดคุยทางโทรศัพท์ ถ้าพาดหัวข่าวเรื่องภาษีกลับมาเป็นลบอีกครั้ง ก็จะเป็นบวกต่อราคาทองคำ
  • ผลสำรวจ Kitco News Gold Survey ล่าสุดเผยว่า นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท ยังคงอยู่ในโหมด "Wait&See" หลังจากที่ราคาทองคำผันผวนขึ้นลงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย (50%) คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ในสัปดาห์นี้ และอีก (43%) เชื่อว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง ส่วนที่เหลือเพียง 7% คาดการณ์ว่าราคาจะ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.4 จุด หรือ 0.41% มาอยู่ที่ระดับ 99.09 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.498% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.0% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.5%
  • หลังจากการรายงานข้อมูลตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดี นักลงทุนประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และอาจมีการลดอีกครั้งภายในเดือนธ.ค. โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดจะประชุมกันในปลายเดือนนี้
  • อัลแบร์โต มูซาเล็ม ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์เตือนว่า ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนต่อไปจนถึงช่วงฤดูร้อน จากความเสี่ยงที่สงครามการค้าภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจเป็นปัจจัยผลักดันเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นอย่างยืดเยื้อ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ว่า จะมีการประกาศชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ในเร็ว ๆ นี้ โดยผู้นำสหรัฐฯ คิดว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งควรเป็นผู้ที่พร้อมลดอัตราดอกเบี้ย โดยหนึ่งในผู้ที่ถูกจับตามองคือ เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด ซึ่งทรัมป์กล่าวถึงในเชิงบวกว่าได้รับความนับถืออย่างมาก และถือเป็นตัวเต็งคนสำคัญสำหรับตำแหน่งนี้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) หลังจากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีกว่าคาดได้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นเทสลา (Tesla) ดีดตัวขึ้นบางส่วนหลังจากดิ่งลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 6,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น
  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,762.87 จุด เพิ่มขึ้น 443.13 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 61.06 จุด หรือ +1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,529.95 จุด เพิ่มขึ้น 231.50 จุด หรือ +1.20%
  • ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.17%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.18%
  • หุ้นทั้ง 11 กลุ่มหลักในดัชนี S&P500 ปิดบวกทั้งหมด โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริการสื่อสารปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.98% และ 1.88% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานปรับขึ้นน้อยที่สุดเพียง 0.18%
  • นักลงทุนขานรับเชิงบวกกับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี 3 คนจะพบปะกับตัวแทนจีนที่กรุงลอนดอนในวันที่ 9 มิ.ย. เพื่อหารือข้อตกลงการค้า

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด และการกลับมาเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งสร้างความหวังเกี่ยวกับการเติบโตของสองเศรษฐกิจ
  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 64.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 66.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ทั้งสองสัญญาปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากลดลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 4.9% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 2.75%
  • ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่า ตลาดจะมีความสมดุลในไตรมาส 2 และ 3 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน และจะสูงสุดในเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มกำลังผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส
  • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส (Baker Hughes) รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีชี้การผลิตในอนาคต ลดลง 4 แท่น เหลือ 559 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มิ.ย. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

  • สำนักงานใหญ่ประสานงานด้านการดูแลนักโทษของยูเครนเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (7 มิ.ย.) ว่า ยูเครนได้ปฏิเสธคำกล่าวหาจากรัสเซียที่ระบุว่า ยูเครนเป็นฝ่ายทำให้การแลกเปลี่ยนนักโทษตามข้อตกลงที่บรรลุเมื่อวันจันทร์ (2 มิ.ย.) นั้นเป็นไปอย่างล่าช้า พร้อมระบุว่าถ้อยแถลงของฝ่ายรัสเซียไม่สะท้อนความจริงและข้อตกลงที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้า
  • รัสเซีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองกำลังของตนได้รุกคืบไปถึงบริเวณชายขอบของภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคกลางตะวันออกของยูเครน ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งที่เปิดเผยระหว่างมอสโกและเคียฟในประเด็นการเจรจาสันติภาพและการส่งคืนร่างทหารที่เสียชีวิตจากสงคราม แม้จะมีการหารือถึงสันติภาพ แต่สถานการณ์สงครามกลับทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยแจ้งข่าวดีล่าสุดว่าขณะนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จะเริ่มเจรจากับประเทศไทยเรื่องมาตรการภาษี และการค้าระหว่างสองฝ่าย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.72 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ  32.60 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.45- 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.85 บาทต่อดอลลาร์

 

 


ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com