• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2568

    6 มิถุนายน 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Unemployment Claims ออกมาที่ 247K สูงกว่าคาดการณ์ที่ 236K และครั้งก่อนที่ 239K
  • โดยภาพรวมตัวเลขการว่างงานยังคงออกมาเพิ่มสูงขึ้น เป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วสะท้อนถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐ


  • ขณะที่มีรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 55.5% สู่ระดับ 6.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2566 จากระดับ 1.383 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ส่วนการนำเข้าลดลง 16.3% สู่ระดับ 3.510 แสนล้านดอลลาร์ และการส่งออกเพิ่มขึ้น 3.0% สู่ระดับ 2.894 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเดินหน้าการเจรจาต่อไปเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.9 เหรียญ หรือ -0.32% อยู่ที่ระดับ 3,363.72 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 24.10 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 3,375.10 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 935.64 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ซื้อสุทธิ 5.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 63.12 ตัน


  • ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย โดยปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social ระบุว่า การสนทนาทางโทรศัพท์เป็นเวลา 90 นาทีระหว่างเขาและปธน.สีในวันพฤหัสบดี เป็นไปด้วยดี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งทำให้ได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐฯ และจีนจะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้าในไม่ช้านี้ โดยจะมีการประกาศสถานที่สำหรับการเจรจาในภายหลัง


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท ActivTrades แสดงความเห็นว่า ความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ


  • ขณะที่ข้อมูลจาก Metals Focus ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกเตรียมซื้อทองคำในปริมาณ 1,000 เมตริกตันในปี 2568 ซึ่งถือเป็นการซื้อทองคำจำนวนมากต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เนื่องจากธนาคารกลางต้องการกระจายสินทรัพย์ในระบบทุนสำรองที่นอกเหนือไปจากสกุลเงินดอลลาร์


  • รายงานล่าสุดจาก สภาทองคำโลก (World Gold Council - WGC) กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่รองรับด้วยทองคำ (Gold-backed ETFs) เผชิญกับกระแสเงินไหลออกสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สะท้อนถึงความผันผวนในความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก


  • ในรายงาน ETF ประจำเดือนที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี WGC ระบุว่า Gold-backed ETFs ทั่วโลกมียอดเงินไหลออกรวม 19.1 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.83 พันล้านดอลลาร์ โดยเงินไหลออกส่วนใหญ่มาจากกองทุนในอเมริกาเหนือ เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อความไม่แน่นอนจากภัยคุกคามทางภาษีศุลกากร


  • รายงานยังระบุอีกว่า ทองคำจำนวน 15.6 ตัน มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ไหลออกจากกองทุนที่จดทะเบียนในอเมริกาเหนือ


  • นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า "การผ่อนปรนภาษีศุลกากรชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ออกมาดีเกินคาด ทำให้ผู้ลงทุนกล้าที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่กลับทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง"


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.06 จุด หรือ -0.06% มาอยู่ที่ระดับ 98.74 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.387% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 3.912% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.48%


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ ECB เริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2567


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบเช่นกัน โดยตลาดถูกกดดันจากหุ้นเทสลา (Tesla) ที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังเกิดความบาดหมางกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้งผิง ผู้นำจีน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,319.74 จุด ลดลง 108 จุด หรือ -0.25%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,939.30 จุด ลดลง 31.51 จุด หรือ -0.53% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,298.45 จุด ลดลง 162.04 จุด หรือ -0.83%


  • หุ้นเทสลาร่วงลง 14.26% ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความบาดหมางระหว่างปธน.ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า มัสก์ได้วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายภาษีของเขา เพราะไม่พอใจที่ร่างกฎหมายดังกล่าวตัดเครดิตภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าออก และเป็นเพราะปธน.ทรัมป์ไม่ยอมแต่งตั้งผู้ที่มัสก์เสนอให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา)


  • ที่ผ่านมานั้น มัสก์เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่สุดให้แก่ทรัมป์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2567 โดยใช้เงินไปมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์สนับสนุนให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปอย่างตึงเครียด หลังจากมัสก์ได้ตำหนิร่างกฎหมายที่ปธน.ทรัมป์เรียกว่า เป็นฉบับที่สวยงามและยิ่งใหญ่ว่าจะทำให้การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมัสก์เรียกร่างกฎหมายนี้ว่า เป็นสิ่งเลวร้ายที่น่ารังเกียจที่สุด


  • ขณะนี้ความสนใจของนักลงทุนมุ่งไปที่การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2%

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี ขานรับข่าวที่ว่าสหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะเจรจาการค้าเพิ่มเติม 


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.83% ปิดที่ 63.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 65.34 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงในวันพุธ อันเนื่องมาจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในประเทศ


  • อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากซาอุดีอาระเบียได้ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบเดือนก.ค.สำหรับผู้ซื้อในเอเชียลงเกือบจะต่ำที่สุดในรอบสองเดือน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • มารอช เซฟโควิช กรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป (EU) ออกมาเตือนว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมไม่เป็นผลดีต่อการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเห็นได้ชัด และเสี่ยงจะกระทบต่อความคืบหน้าในการเจรจาล่าสุด 


  • เรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่นเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมเจรจาการค้ารอบที่ 5 กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ โดยญี่ปุ่นยังคงยืนกรานเรียกร้องให้สหรัฐฯ ทบทวนนโยบายภาษีนำเข้า โดยเฉพาะอัตราภาษี 25% สำหรับรถยนต์ผลิตในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสินค้าหลักของอุตสาหกรรมส่งออกญี่ปุ่น และยื่นข้อเสนอเสริมแกร่งความร่วมมือกับสหรัฐฯ ด้านห่วงโซ่อุปทานแร่หายาก เพื่อรับมือกับการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน 


  • กองทัพอากาศยูเครนรายงานว่า รัสเซียได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ ส่งขีปนาวุธและโดรนถล่มยูเครนจากหลายทิศทาง โดยกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ถูกโจมตีอย่างหนัก


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.63 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.49 บาทต่อดอลลาร์


  • ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุว่า ดัชนีชี้นำการส่งออกของไทย (EXIM Index) ล่าสุด ณ ไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 100.5 ต่ำสุดในรอบ 6 ไตรมาส สะท้อนการส่งออกไทยไตรมาส 3 ปี 2568 มีแนวโน้มชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่เผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ภาคการผลิตไทยที่ยังซบเซา ราคาส่งออกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกที่ลดลง


 


ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com