• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2568

    5 มิถุนายน 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • ADP Non-Farm Employment Change ออกมาที่ 37K ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 111K และครั้งก่อนที่ 60K
  • ISM Services PMI ออกมาที่ 49.9 ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 52.0 และครั้งก่อนที่ 51.6


  • โดยภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดชี้ให้เห็นถึงการหดตัวที่รุนแรงกว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมาเพียง 37,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี นอกจากนี้ ดัชนีภาคบริการยังปรับตัวลงสู่ระดับ 49.9 ต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคบริการ


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ ราคาทองคำใกล้ระดับสูงสุดในรอบเดือน การฟื้นตัวของราคาทองคำได้รับแรงหนุนจาก การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.5% หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด. ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การค้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 17.57 เหรียญ หรือ 0.52% อยู่ที่ระดับ 3,374.31 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 22.10 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 3,399.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 935.64 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ซื้อสุทธิ 5.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 63.12 ตัน


  • นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ล่าสุด ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าการเจรจากับปธน.สี จิ้นผิงของจีนเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เนื่องจากปธน.สีเป็นผู้นำที่แข็งกร้าวและต่อรองได้ยาก


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.32 จุด หรือ -0.32% มาอยู่ที่ระดับ 98.86 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.375% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.885% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ 0.49%


  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้ ตลาด Swap (สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย) ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะ ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคมและธันวาคม


  • ขณะที่ด้าน ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ออกมาเคลื่อนไหวทันทีหลังตัวเลข ADP Non-Farm ประกาศออกมาต่ำ โดยได้ เรียกร้องให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยทันที ซึ่งเป็นจุดยืนที่แสดงมาอย่างต่อเนื่อง


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,427.74 จุด ลดลง 91.90 จุด หรือ -0.22%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,970.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.44 จุด หรือ +0.01% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,460.49 จุด เพิ่มขึ้น 61.53 จุด หรือ +0.32%


  • อย่างไรก็ดี บาร์เคลย์ (Barclays) ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนี S&P500 ณ สิ้นปี 2568 ขึ้นสู่ระดับ 6,050 จุด จาก 5,900 จุด เนื่องจากคาดว่าความไม่แน่นอนด้านการค้าจะคลี่คลายลง โดยมุมมองบวกของบาร์เคลย์สอดคล้องกับสถาบันการเงินรายอื่น ๆ ที่พากันปรับเพิ่มเป้าหมาย S&P500 มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) และดอยซ์ แบงก์ (Deutsche Bank)


  • ดัชนีภาคบริการปรับตัวลงสู่ระดับ 49.9 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคบริการ โดยด้าน สตีฟ มิลเลอร์ ประธาน ISM ชี้ ดัชนีโดยรวมแม้ไม่บ่งชี้การหดตัวรุนแรง แต่สะท้อน "ความไม่แน่นอน" ที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของ "กำแพงภาษี" (Tariffs) ซึ่งทำให้หลายบริษัทวางแผนและคาดการณ์ได้ยาก จึงพยายามชะลอหรือลดการสั่งซื้อลงจนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนกว่านี้


  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะชะลอตัวลง โดยให้เหตุผลว่าเกิดจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น สภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น และความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า GDP ของอังกฤษจะขยายตัวขึ้น 1.3% ในปี 2568 ก่อนชะลอตัวลงสู่ระดับ 1% ในปี 2569

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอุปทานเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งความกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์พลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 62.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 77 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 64.86 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล


  • อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล


  • ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด


  • โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค.อีก 410,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งน่าจะเป็นการปรับเพิ่มครั้งสุดท้ายในรอบนี้ก่อนจะตรึงระดับการผลิตไว้ตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป


  • นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 เหลือเพียง 2.9% จากเดิมที่ระดับ 3.1% โดยมีสาเหตุจากการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามติดต่อพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นการส่วนตัว เพื่อหยุดยั้งความขัดแย้ง ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า "ผมชอบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาตลอด และจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป แต่เขาแข็งกร้าวมาก และยากที่จะทำข้อตกลงด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้นำจีนดูเหมือนกำลังส่งสัญญาณว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าสหรัฐฯ จะแสดงท่าทีผ่อนปรนก่อน และยังไม่ชัดเจนว่าจีนต้องการอะไร


  • รัฐบาลแคนาดาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ กำลังเร่งเจรจาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องกับสหรัฐฯ เพื่อขอให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมชุดใหม่ รวมถึงมาตรการภาษีอื่น ๆ ที่ประกาศโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับจดหมายจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ขอให้ญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอทางการค้าที่ดีที่สุดในการเจรจา แม้ว่าทางด้านแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงประเทศคู่ค้าหลายแห่งเพื่อขอให้ยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดในประเด็นการค้าภายในเมื่อวานนี้


  • ผู้นำอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะไม่ยอมรับการบีบบังคับให้ต้องยอมทำตามข้อเรียกร้องในการเจรจานิวเคลียร์ ขณะที่การเจรจาทางอ้อมกับสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีโอมานทำหน้าที่เป็นตัวกลางเจรจา


  • รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีนกล่าวย้ำในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก (WTO) ในฝรั่งเศสว่า จีนสนับสนุนบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้นของ WTO ในการบริหารเศรษฐกิจโลก และยังคงยึดมั่นในระบบการค้าพหุภาคี ขณะเดียวกัน 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.59 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.70 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.70 บาทต่อดอลลาร์


  • ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ที่ 1.5-2.0% ตามการส่งออกสินค้า และการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในครึ่งปีหลัง

 


ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com