• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 29 พฤษภาคม 2568

    29 พฤษภาคม 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Richmond Manufacturing Index ออกมาตามคาดการณ์ที่ -9 ครั้งก่อนที่ -13

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังจากนักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งระบุถึงความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น


  • ราคาทองคำเช้านี้ ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ โดยเช้านี้ลดลงกว่า 1% มาอยู่ที่ประมาณ 3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การลดลงนี้เป็นผลมาจากความเสี่ยงด้านภาษีศุลกากรที่ผ่อนคลายลง โดยการปรับตัวลงของราคาทองคำเกิดขึ้นหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ มีคำตัดสินว่า ทรัมป์ ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ ศาลได้สั่งให้ ยกเลิกมาตรการดังกล่าว ซึ่งส่งผลต่อนโยบายเศรษฐกิจสำคัญ ของทรัมป์ แม้ว่าฝ่ายบริหารคาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ แต่การตัดสินใจดังกล่าวช่วยลดความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับสงครามการค้า


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -54.41 เหรียญ หรือ -1.65% อยู่ที่ระดับ 3,249.81 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 3,294.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 925.61 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 18.65 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 53.09 ตัน


  • นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุนจัดสรรทองคำในสัดส่วนที่สูงกว่าปกติในพอร์ตการลงทุนระยะยาว โดยระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ รวมทั้งแรงกดดันที่เฟดกำลังเผชิญ นอกจากนี้ คาดว่าราคาทองคำจะได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ของธนาคารกลาง


  • Standard Chartered คาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับฐานใกล้ 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอีก 1-3 เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นสูงถึง 3,500 ดอลลาร์ในระยะยาว นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตั้งแต่ปี 2022 ผู้ซื้อรายใหญ่จะ ชะลอการซื้อเมื่อราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาทองคำมักจะทรงตัวเป็นช่วงๆ อย่างไรก็ตาม Standard Chartered ยังคงมองโลกในแง่ดีในระยะยาว โดยคาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐภายใน 6-12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการของธนาคารกลางกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.83% มาอยู่ที่ระดับ 100.35 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.499% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.019% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.48%


  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในเช้าวันพฤหัสบดี หลังจากศาลมีคำสั่งห้ามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้เรียกเก็บภาษีนำเข้า ส่งผลให้ ดัชนีดอลลาร์  พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 อีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ และมาอยู่ที่ระดับ 100.40 จุด


  • คณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 6-7 พ.ค.โดยระบุว่า เฟดอาจเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่เงินเฟ้อปรับสูงขึ้นในเวลาเดียวกับที่อัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ กรรมการเฟดเตือนว่าสหรัฐฯ มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Spartan Capital Securities กล่าวว่า รายงานการประชุมเฟดไม่ได้เผยให้เห็นถึงสิ่งใหม่ และเมื่อดูในภาพรวมแล้ว เฟดยังคงใช้ท่าทีรอดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบเช่นกัน หลังจากนักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) 


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,098.70 จุด ลดลง 244.95 จุด หรือ -0.58%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,888.55 จุด ลดลง 32.99 จุด หรือ -0.56% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,100.94 จุด ลดลง 98.23 จุด หรือ -0.51%


  • หุ้น Nvidia ปิดตลาดปรับตัวลง 0.5% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการ ขณะที่รายงานระบุว่า Nvidia เปิดเผยยอดขายไตรมาส 1 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์


  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ส่วนในวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


  • แม้รัฐบาลจีนจะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเงินฝากอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะเก็บออมมากกว่าจับจ่ายใช้สอย สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคต ข้อมูลจากธนาคารกลางจีนระบุว่า ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2568 ยอดเงินฝากของครัวเรือนในจีนพุ่งสูงเกิน 160 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 22.30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีก่อน และคิดเป็น 118% ของจีดีพีในปี 2567 ขณะที่ยอดค้าปลีกในไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 4.6% เมื่อเทียบรายปี

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงนโยบายการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่อนุญาตให้บริษัทเชฟรอนส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.56% ปิดที่ 61.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • โอเปกพลัส มีมติคงนโยบายการผลิตน้ำมันตามที่ได้ตกลงกันในการประชุมเดือนธ.ค. 2567 โดยจะลดกำลังการผลิตรวม 2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2569 นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเรียกร้องให้สำนักเลขาธิการโอเปกทำการประเมินศักยภาพการผลิตที่ยั่งยืนของแต่ละประเทศ เพื่อกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ” (baseline) สำหรับการผลิตน้ำมันในปี 2570 ซึ่งจะใช้เป็นฐานในการคำนวณโควตาการผลิตของสมาชิก


  • ส่วนในวันเสาร์นี้ (31 พ.ค.) สมาชิก 8 ชาติของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรีย อิรัก คาซัคสถาน คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะจัดการประชุมแยกต่างหาก โดยคาดว่าที่ประชุมจะเห็นพ้องให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 411,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.และมิ.ย.


  • ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนหลังจากรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ไม่อนุญาตให้บริษัทเชฟรอนดำเนินงานในแหล่งน้ำมันของเวเนซุเอลา รวมทั้งไม่สามารถส่งออกน้ำมัน หรือขยายกิจกรรมใด ๆ ในเวเนซุเอลา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชฟรอนมีการชำระเงินใด ๆ แก่รัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา เนื่องจากปธน.ทรัมป์มองว่าปธน.มาดูโรไม่มีความคืบหน้าในการส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศ และประสบความล้มเหลวในการปฏิรูปการเลือกตั้งเพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศ


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • กองทัพอิสราเอลแถลงว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลได้ทำการโจมตีสนามบินในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อวานนี้ โดยได้ทำลายเครื่องบินหลายลำที่เป็นของกองกำลังฮูตี


  • ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสยืนยันที่จะเห็นการใช้แนวทางสองรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และกล่าวว่า ไม่มีการใช้สองมาตรฐานในนโยบายของฝรั่งเศสต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยจะเข้าร่วมกับซาอุดีอาระเบีย จัดการประชุมเกี่ยวกับประเด็นกาซาที่นิวยอร์กเร็ว ๆ นี้ เพื่อผลักดันให้เกิดความคืบหน้าครั้งใหม่ในการรับรองรัฐปาเลสไตน์ และการรับรองรัฐอิสราเอล 


  • ผู้นำอิหร่าน ได้เริ่มการเยือนโอมานอย่างเป็นทางการ โดยเข้าพบกับสุลต่านไฮธัม บิน ทาริก อัล ซาอิด และร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงทวิภาคีหลายฉบับ ขณะที่โอมานยังคงทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจานิวเคลียร์ทางอ้อมระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ

  • สถานการณ์ระหว่าง สหรัฐฯ และ รัสเซีย ร้อนระอุยิ่งกว่าที่เคย เมื่อ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ หลังจาก ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ส่งเอกสาร "ข้อตกลงสันติภาพ" ตามที่สัญญาไว้ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2568 โดยเอกสารนี้คาดว่าจะระบุเงื่อนไขของรัสเซียเพื่อหยุดยิงในสงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานาน แต่เกือบ 10 วันผ่านไป สหรัฐฯ และยูเครนยังไม่ได้รับอะไรเลย ความล่าช้านี้ยิ่งจุดไฟให้ทรัมป์ โดยเฉพาะเมื่อรัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.81 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  32.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเริ่มมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง ในลักษณะ Sideways Up หลังเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทว่า เงินดอลลาร์จะสามารถคงโมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ได้หรือไม่นั้น จำเป็นจะต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาสดใสและโดดเด่นกว่าบรรดาประเทศอื่นๆ

 



ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com