MTS Help Center

ตัวเลขเศรษฐกิจ

• Unemployment Claims ออกมาที่ 227K ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 230K และครั้งก่อนที่ 229K
• Flash Manufacturing PMI ออกมาที่ 52.3 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 49.9 และครั้งก่อนที่ 50.2
• Flash Services PMI5 ออกมาที่ 52.3 สูงกว่าคาดการณ์ที่ 51.0 และครั้งก่อนที่ 50.8                           
• Existing Home Sales ออกมาที่ 4.00M ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 4.15M และครั้งก่อนที่ 4.02M

• ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดูดีขึ้น โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย รวมถึงฝั่งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการ ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ทั้งนี้ ดัชนี (PMI) ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ 

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -19.81 เหรียญ หรือ -0.6% อยู่ที่ระดับ 3,300.09 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 3,295.00 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 4.01 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 923.89 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 20.37 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 51.37 ตัน

• นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Metals กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด อย่างไรก็ดี คาดว่าความผันผวนในตลาดพันธบัตรทั่วโลกจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรทั่วโลกหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

• นักวิเคราะห์โลหะมีค่าจาก Standard Chartered เผยว่า การซื้อ ETF ทองคำในเอเชีย เป็นปัจจัยล่าสุดที่หนุนราคาให้พุ่งสูงขึ้น แต่เตือนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่อนคลายลง อาจทำให้ราคาลดลง 10% ภายในสิ้นปีนี้

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.07 จุด หรือ 0.07% มาอยู่ที่ระดับ 99.71 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.521% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 3.985% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ 0.54%

• ก่อนหน้านี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นและเป็นปัจจัยฉุดตลาด แต่หลังจากสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ชะลอตัวลงและช่วยลดแรงกดดันในตลาด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.543% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

• ในช่วงที่ตลาดหุ้นซบเซา พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และ เงินดอลลาร์ กลับได้รับความสนใจจนราคาพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะหืประเมิน สิ่งที่น่าจับตาคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี พุ่งแตะ 5.15% เข้าใกล้ระดับปี 2007 (ก่อนวิกฤตการเงินโลก) ก่อนจะปรับตัวลงมาบ้าง การพุ่งขึ้นนี้บ่งชี้ชัดเจนว่านักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงจากการให้รัฐบาลสหรัฐฯ กู้ระยะยาว ล่าสุดอัตราผลตอบแทน 30 ปี ได้ผ่อนคลายลงหลังแตะระดับ 5.038%

• นักวิเคราะห์ จาก Macquarie ชี้ว่า การขาดดุลงบประมาณมหาศาลของสหรัฐฯ ไม่ได้หมายถึงแค่ปริมาณพันธบัตรที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ ภาวะเงินเฟ้อ ในที่สุด หากรัฐบาลต้องพิมพ์เงินเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม สถานการณ์นี้ทำให้ ตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยคงที่ ดูไม่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,859.09 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.003%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.01 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.04% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,925.73 จุด เพิ่มขึ้น 53.09 จุด หรือ +0.28%

• UBS Global Wealth Management ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายสิ้นปีสำหรับ ดัชนี S&P 500 เป็น 6,000 จุด จากเดิม 5,800 จุด และตั้งเป้าหมายกลางปี 2026 ไว้ที่ 6,400 จุด หัวหน้าฝ่ายหุ้นสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลมาจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ รวมถึงการปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในช่วงครึ่งหลังของปี

• รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแพร่รายงานการประเมินเศรษฐกิจประจำเดือนพ.ค. โดยรัฐบาลยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะหดตัวในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ และมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก็ตาม

• กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ค่าจ้างที่แท้จริงเฉลี่ยต่อเดือนหลังหักผลกระทบเงินเฟ้อ ลดลง 0.5% ในปีงบประมาณ 2567 สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2568 นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งตอกย้ำว่าแม้เงินเดือนปรับขึ้น แต่ก็ยังไล่ไม่ทันอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นไม่หยุด

• ขณะที่ Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 111,900 ดอลลาร์ กระแสราคาที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแรงสนับสนุนจากกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ และความจำเป็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องกู้เงินมากขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 61.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 64.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สื่อรายงานว่ากลุ่มโอเปกพลัสกำลังหารือกันว่าจะอนุมัติการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่อีกครั้งในการประชุมวันที่ 1 มิ.ย.นี้หรือไม่ โดยหนึ่งในข้อเสนอที่กำลังพิจารณาคือการเพิ่มกำลังผลิตในเดือนก.ค.อีก 411,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 3 เท่าของแผนเดิม ซึ่งหากมีมติเห็นชอบ ก็จะถือเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่โอเปกพลัสเดินหน้าผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยวางแผนไว้

• ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเท่ากับปริมาณที่โอเปกพลัสกำลังเร่งผลิตเพิ่มในเดือนพ.ค.และ มิ.ย. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ต้องการลงโทษสมาชิกบางประเทศที่ผลิตน้ำมันเกินโควตา โดยใช้วิธีเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาดเพื่อกดราคาน้ำมันให้ลดต่ำลง

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง

• สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้การอนุมัติอย่างฉิวเฉียดต่อร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 215-214 เสียง ก่อนส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาต่อไป ขณะที่ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เรียกร้องให้วุฒิสภาเร่งพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเขามีเป้าหมายที่ส่งร่างกฎหมายนี้ให้ถึงโต๊ะของปธน.ทรัมป์ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ

• ทั้งนี้ แม้ว่าการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของรัฐบาลทรัมป์ที่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เตือนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์

• กระทรวงการค้าเวียดนามแถลงว่า การเจรจาการค้ารอบที่ 2 ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐฯ ยังไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งหมด โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเดินหน้าหารือต่อในช่วงต้นเดือนมิ.ย.

• โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านตกลงรับข้อเสนอจากโอมานในการจัดการเจรจานิวเคลียร์ทางอ้อมรอบที่ 5 กับสหรัฐฯ ในวันนี้ ณ กรุงโรม ของอิตาลี

• ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ผู้นำฟินแลนด์ เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้าที่วาติกัน โดยการเจรจาครั้งนี้น่าจะมีผู้แทนจากสหรัฐฯ และประเทศในยุโรปเข้าร่วมด้วย 

• นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลประกาศว่า พื้นที่ทุกแห่งของฉนวนกาซาจะอยู่ภายใต้การควบคุมด้านความมั่นคงของอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะต้องพ่ายแพ้เมื่อปฏิบัติการ “Operation Gideon’s Chariots” สิ้นสุดลง ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหาร “ขั้นตอนสุดท้าย” ของอิสราเอล 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดทรงตัวที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวจากราคาปิดตลาดเมื่อวันทำการก่อนหน้าที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบแนวรับที่ 32.75 บาท แนวต้าน 33.00 บาท

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง