• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2568

    14 พฤษภาคม 2568 | Gold News


ตัวเลขเศรษฐกิจ


  • Core CPI m/m ออกมาที่ 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% และครั้งก่อนที่  0.1%          
  • CPI m/m  ออกมาที่ 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% และครั้งก่อนที่ -0.1%                          
  • CPI y/y ออกมาที่ 2.3% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.4% และครั้งก่อนที่ 2.4%


  • ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจ เงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI  y/y  ต่ำสุดในรอบ 4ปี โดยภาพรวมขณะนี้มาตรการภาษียังไม่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังไดัปัจจัยหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐฯ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 10.54 เหรียญ หรือ 0.33% อยู่ที่ระดับ 3,248.47 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 19.80 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3,247.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 936.51 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 7.75 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 63.99 ตัน


  • นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่า นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงกว่า 100 ดอลลาร์ในวันจันทร์ เนื่องจากข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ และจีนทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ภาษีศุลกากร 30% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีนนั้น ถือว่ายังอยู่ในระดับสูงและเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.79 จุด หรือ -0.78% มาอยู่ที่ระดับ 100.93 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.481% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.009% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.47%


  • เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความรู้สึก คลายใจ ต่อรายงานอัตราเงินเฟ้อที่ออกมา อย่างไรก็ตาม เขายังคงยืนยันว่าจำเป็นต้องเห็นสัญญาณเช่นนี้ "อีกหลายครั้ง" ก่อนที่จะพิจารณา อย่างจริงจัง ในการสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม


  • ออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาชิคาโก กล่าวว่า "รายงานเงินเฟ้อนี้นี้ไม่ได้ส่งสัญญาณอันตรายใดๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าพอใจ" โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเมษายน ประกอบกับ การชะลอ การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงสุดเป็นเวลา 90 วัน สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อที่สดใสขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยให้เจ้าหน้าที่สามารถกลับมาพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้ง

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อตลาด


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,140.43 จุด ลดลง 269.67 จุด หรือ -0.64%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,886.55 จุด เพิ่มขึ้น 42.36 จุด หรือ +0.72% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,010.08 จุด เพิ่มขึ้น 301.74 จุด หรือ +1.61%


  • ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทำให้บริษัทในวอลล์สตรีท เช่นเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) และบาร์เคลย์ส (Barclays) ต่างก็ปรับลดโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเผชิญภาวะถดถอยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้


  • โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ พร้อมทั้งลดความน่าจะเป็นที่สหรัฐฯ จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าร่วมกันจากปัจจัยนี้ จึงคาดการณ์ว่า GDP ของจีนจะขยายตัว 4.6% ในปีนี้ และ 3.8% ในปี 2026 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 4.0% และ 3.5% ตามลำดับ สำหรับสหรัฐฯ  มีการปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของสหรัฐฯ ในไตรมาส 4 ปี 2568 เป็น 1.0% จาก 0.5% และลดโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าลงเหลือ 35% จาก 45%


  • หลังจากการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว สถาบันการเงินหลายแห่งได้ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจจีน โดยมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP รายไตรมาสระยะสั้นของจีนในปี 2568 เป็น 4.5% จากเดิม 4% โดยคาดว่าบริษัทต่าง ๆ จะพยายามเร่งการส่งออกเพื่อให้ได้ประโยชน์จากภาษีศุลกากรที่ปรับตัวลง


  • ขณะที่ยูบีเอส (UBS) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP จีนในปี 2568 ขึ้นสู่ระดับ 3.7% – 4% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 3.4% โดยมองว่าข้อตกลงการค้าจะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน


  • ผลสำรวจของบริษัทวิจัย เทโกกุ ดาต้าแบงก์ (Teikoku Databank) ระบุว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 800 แห่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี สะท้อนถึงความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว และข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.57% ปิดที่ 66.63 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.287 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • ทรัมป์สร้างความสำเร็จทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยการคว้าดีลมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์จากซาอุดีอาระเบียโดยลงนามในข้อตกลง "หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์" ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญ อาทิ การจำหน่ายอาวุธ (1.42 แสนล้านดอลลาร์), การจัดซื้อกังหันก๊าซจาก  (1.42 หมื่นล้านดอลลาร์) และการจัดหาเครื่องบินจากโบอิ้ง (4.8 พันล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความร่วมมือระยะยาวระหว่างสองประเทศ


  • ทำเนียบขาวเผย ระบุว่า สหรัฐฯ เตรียมลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากจีนที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อวัน หรือที่เรียกว่า “de minimis” นับเป็นสัญญาณบวกล่าสุดในการผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้าทวิภาคี โดยอัตราภาษี de minimis จะถูกปรับลดจากเดิม 120% เหลือเพียง 54% สำหรับพัสดุมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ พร้อมคงค่าธรรมเนียมคงที่ไว้ที่ 100 ดอลลาร์ต่อพัสดุ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนเริ่มแจ้งให้สายการบินในประเทศและหน่วยงานของรัฐบาลทราบในสัปดาห์นี้ว่า การรับมอบเครื่องบินที่ผลิตในสหรัฐฯ สามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับโบอิ้ง เนื่องจากจีนเป็นตลาดการบินที่สำคัญ และครองสัดส่วนประมาณ 10% ของยอดเครื่องบินพาณิชย์รอส่งมอบของบริษัท


  • สภาหอการค้าจีน (CGCC) ประจำสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจประจำปีระบุว่า บริษัทจีนที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจที่ขาดเสถียรภาพจากข้อจำกัดทางการค้า ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น


  • ราคารถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามาตรการภาษีรถยนต์ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์แล้ว โดยราคาเฉลี่ยที่ผู้บริโภคจ่ายจริงเพิ่มขึ้นถึง 2.5% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. สูงกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ๆ ซึ่งเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.1%


  • ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง และไม่ตอบสนองใด ๆ ต่อข้อเสนอให้มีการเจรจาโดยตรงที่ประเทศตุรกีในสัปดาห์นี้


  • นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียกล่าวว่า อินเดียจะจับตาท่าทีของปากีสถานอย่างใกล้ชิดหลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way Volatility จากทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ที่สามารถมีทั้งจังหวะย่อตัวลง สลับกับการรีบาวด์สูงขึ้น ทำให้โฟลว์ธุรกรรมซื้อ-ขายทองคำ ส่งผลกระทบต่อเงินบาทได้เช่นกัน ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 14พ.ค2568 ที่ระดับ  33.23 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.20 บาทต่อดอลลาร์


  • นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้ยื่นข้อเสนอ (Proposal) เพื่อเจรจาต่อรองมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างนี้คงต้องรอการนัดหมายเจรจาจากทางการสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการทั้งระดับรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

 

ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com