• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2568

    13 พฤษภาคม 2568 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -97.22 เหรียญ หรือ -2.92% อยู่ที่ระดับ 3,228.17 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 116 ดอลลาร์ หรือ 3.47% ปิดที่ 3,228.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 939.09 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 5.17 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 66.57 ตัน


  • ตลาดทองคำยังถูกกดดัน หลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้พบปะเจรจาการค้ากับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% และอัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125%


  • นักวิเคราะห์จาก Bank of America ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำอีกครั้ง โดยระบุว่าราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากคาดการณ์เดิมที่ 3,500 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.95 จุด หรือ 0.94% มาอยู่ที่ระดับ 101.64 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.455% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 3.99% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ0.47%


  • เอเดรียนา คุกเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดมีความจำเป็นน้อยลงในการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ


  • ลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตือนว่า นโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจทำให้ประสิทธิภาพการผลิตของสหรัฐฯ ลดลง ซึ่งอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพน้อยลง โดยคุกกล่าวว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการค้าของทรัมป์จะทำให้การลงทุนทางธุรกิจลดลง และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้าที่นำเข้ามาอาจทำให้โครงการต่าง ๆ ที่เคยช่วยเพิ่มผลิตภาพต้องล่าช้า


  • นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. เวลา 08.40 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย


  • กรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาเตือนว่า ECB ควรหยุดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกอาจผลักดันเงินเฟ้อให้พุ่งเกินเป้าหมายที่ระดับ 2% ในระยะกลาง


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้น และเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1,000 จุดในวันจันทร์ หลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,410.10 จุด เพิ่มขึ้น 1,160.72 จุด หรือ +2.81%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,844.19 จุด เพิ่มขึ้น 184.28 จุด หรือ +3.26% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,708.34 จุด เพิ่มขึ้น 779.43 จุด หรือ +4.35%


  • ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็พุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. เนื่องจากข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคึกคัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักและมีความผันผวนสูง


  • ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 16.03% ปิดที่ระดับ 18.39 โดยดัชนี VIX ปิดที่ระดับต่ำกว่า 20 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 60 ในเดือนเม.ย. อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% เช่นกันในเดือนมี.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% เช่นกันในเดือนมี.ค.


  • นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าสงครามการค้าระหว่างสองประเทศจะยุติลง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.52% ปิดที่ 61.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 64.96 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมัน WTI และน้ำมันเบรนท์ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์หรือนับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. หลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน 


  • สำหรับการเจรจานิวเคลียร์รอบล่าสุดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 พ.ค.) ปิดฉากลงอย่างไม่ราบรื่นนัก และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะมีการเจรจาต่อไป


  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการในวันพุธ

ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


  • รัฐมนตรีฟื้นฟูเศรษฐกิจและหัวหน้าผู้เจรจาของญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะยังคงเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีศุลกากรทั้งหมดที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดใช้กับญี่ปุ่น โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งภาษีบางรายการของทรัมป์ต่อสินค้านำเข้าจากสหราชอาณาจักรจะยังคงมีผลบังคับใช้


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

 

  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.38 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงหนักจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ  33.02 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม) มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.95- 33.75 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.60 บาทต่อดอลลาร์

 

 


ที่มาจาก : yahoo finance, Reuters, kitco news, investing, Infoquest

Tags : ข่าวทองข่าวทอง ทอง ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com